แต่ที่สำคัญกว่านั้น คือการเล่นอย่างมีวินัยและควบคุมอารมณ์ให้ได้ เพราะนี่คือหัวใจสำคัญที่จะนำพาคุณไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน มาเริ่มเปลี่ยนชีวิตคุณด้วยบทความ “ความลับของนักพนันมืออาชีพ” กันเลย!

กำหนดเงินทุนและเป้าหมายให้ชัดเจน

สิ่งสำคัญอันดับแรกที่ผู้เล่นบาคาร่าทุกคนต้องให้ความสำคัญ คือการวางแผนการเงินและการตั้งเป้าหมายในการเล่นให้ชัดเจน ไม่ว่าคุณจะมีเงินทุนมากน้อยเพียงใด การกำหนดวงเงินสำหรับการเดิมพันแต่ละครั้งจะช่วยป้องกันไม่ให้คุณเล่นเกินตัวและสูญเสียเงินจนหมดกระเป๋า การพนันทุกชนิดมีโอกาสได้และเสียเท่า ๆ กัน ดังนั้นอย่าลืมคำนวณเงินทุนที่คุณพร้อมจะเสียให้ดี ก่อนเริ่มวางเดิมพันทุกครั้ง และหากดวงไม่ดีจริง ๆ คุณก็จะไม่ต้องเสียเงินมากจนเกินไป

นอกจากนี้ การตั้งเป้าหมายกำไรที่อยากได้ในแต่ละรอบหรือแต่ละวันก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ให้คุณคำนวณว่าต้องการทำกำไรจากการเล่นบาคาร่าเท่าไหร่ แล้วพยายามเล่นให้ได้ตามนั้น เมื่อบรรลุเป้าหมายแล้ว ก็ควรหยุดเล่นทันที ไม่เช่นนั้นอาจเสี่ยงต่อการสูญเสียกำไรที่ทำมาทั้งหมดได้ในพริบตา

จำไว้เสมอว่าเราเล่นเพื่อทำกำไร ไม่ใช่เล่นเพื่อเอาชนะเกมให้ได้เท่านั้น การรู้จักพอและหยุดได้ถือเป็นคุณสมบัติสำคัญของนักพนันมืออาชีพ

เลือกเวลาเล่นให้เหมาะสมเพื่อเพิ่มโอกาสชนะ

หลายคนอาจไม่ทราบว่าช่วงเวลาที่คุณเลือกเข้าเล่นบาคาร่าก็ส่งผลต่อโอกาสชนะเช่นกัน จากสถิติพบว่าช่วงเวลาที่มีผู้เล่นน้อย เช่น ตอนกลางวันของวันธรรมดา หรือช่วงดึกของวันหยุด จะเป็นช่วงที่มีความผันผวนของไพ่น้อยกว่าช่วงเวลาเร่งด่วนอย่างเย็นวันศุกร์หรือวันหยุดต่าง ๆ

การเลือกเล่นในช่วงเวลาที่คนไม่พลุกพล่านนัก จะทำให้คุณสามารถอ่านเกมและคาดการณ์ผลไพ่ได้แม่นยำขึ้น รวมถึงมีเวลาคิดวิเคราะห์มากขึ้นก่อนตัดสินใจวางเดิมพันแต่ละครั้ง นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณจำกัดวงโต๊ะที่จะเล่นได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

หากเป็นไปได้ ให้เลือกเล่นบาคาร่าในช่วงเวลาที่ไพ่มีความสม่ำเสมอ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรของคุณได้มากกว่าการเล่นในช่วงที่ไพ่กำลังมีความผันผวนสูง เพราะจะทำให้การอ่านเกมทำได้ยากขึ้นนั่นเอง

ศึกษากฎกติกาพื้นฐานและรูปแบบการเล่นบาคาร่าให้เข้าใจถ่องแท้

หากคุณอยากจะเป็นเซียนบาคาร่าตัวจริง คุณจำเป็นต้องศึกษาและทำความเข้าใจกฎกติกาการเล่นให้แม่นยำเสียก่อน

บาคาร่ามีวิธีการเล่นที่ค่อนข้างง่าย ผู้เล่นแค่เลือกว่าจะทายฝั่งเจ้ามือ (Banker) หรือผู้เล่น (Player) เท่านั้น ส่วนไพ่จะออกมาเป็นอย่างไรนั้น ผู้เล่นไม่สามารถควบคุมได้เลย ดังนั้นสิ่งสำคัญคือคุณต้องรู้ว่าเกมนี้มีความเสี่ยงและอาศัยดวงเป็นหลัก

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายรูปแบบที่นักพนันมืออาชีพมักใช้เล่นเพื่อเพิ่มโอกาสชนะและจำกัดความเสี่ยง เช่น

• การเดินเงินตามสูตรต่าง ๆ เช่น 1-3-2-4
• การเลือกห้องเล่นที่มีสถิติไพ่ออกสม่ำเสมอ
• การสังเกตุไพ่เพื่อจับทางและหาจังหวะเดิมพัน

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเทคนิคที่นักพนันเซียน ๆ มักใช้กัน ซึ่งหากคุณสามารถเรียนรู้และฝึกฝนจนเข้าใจและนำไปปรับใช้ได้ ก็จะช่วยให้คุณเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากเกมบาคาร่าได้ดียิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าไม่มีสูตรไหนที่ป้องกันการแพ้ได้ 100% การพนันย่อมมีความเสี่ยงเสมอ คุณจึงต้องมีวินัยและเล่นอย่างมีสติ ไม่หลงระเริงจนเกินพอดี เพราะนั่นจะทำให้การเดิมพันของคุณกลายเป็นหนทางสู่หายนะได้โดยง่าย

สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่คุ้นชินกับเกมไพ่ชนิดนี้ แนะนำให้ฝึกเล่นกับโต๊ะทดลองฟรีก่อน เพื่อให้คุณได้เรียนรู้กฎกติกาและสัมผัสกับบรรยากาศจริงของเกม ก่อนที่จะลงเดิมพันด้วยเงินจริงในภายหลัง อย่าลืมว่าประสบการณ์และความชำนาญจะสั่งสมขึ้นเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาที่คุณเล่น อดทนและขยันศึกษาไปเรื่อย ๆ นั่นคือหัวใจสำคัญที่จะทำให้คุณก้าวขึ้นเป็นขาใหญ่ในวงการนี้ได้ไม่ยาก

รู้จักอ่านเกมและมองหาโอกาสทำกำไร

หากคุณต้องการเป็นเซียนบาคาร่าตัวจริง ทักษะสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือการอ่านเกมให้แม่น การวิเคราะห์สถานการณ์ของโต๊ะ สังเกตลักษณะไพ่ที่ออก และคาดการณ์แนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในตาต่อ ๆ ไป ถือเป็นหัวใจหลักในการเอาชนะเกมนี้

ในการอ่านเกม คุณต้องดูสถิติย้อนหลังของไพ่ที่ผ่านมาในรอบนั้น ๆ ว่ามีไพ่ฝั่งเจ้ามือหรือผู้เล่นออกบ่อยแค่ไหน ดูว่ามีลักษณะการออกที่ซ้ำ ๆ กันหรือไม่ และต้องคอยสังเกตว่าไพ่กำลังจะเปลี่ยนเป็นอีกฝั่งหรือยัง สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณคาดการณ์ทิศทางของไพ่ในตาถัดไปได้แม่นยำมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การอ่านเกมที่ดีไม่ได้ใช้แค่สถิติเพียงอย่างเดียว สิ่งสำคัญคือคุณต้องผสมผสานกับดวงและสัญชาตญาณส่วนตัวด้วย หากคุณรู้สึกไม่ดีกับสถานการณ์ของโต๊ะในขณะนั้น หรือสังหรณ์ใจว่าไพ่อาจจะไม่มาตามที่คิด บางครั้งการตัดสินใจถอยออกมาก่อนก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน

นอกจากนี้ การรู้จักประมาณตนเองก็สำคัญไม่แพ้กัน อย่าเล่นด้วยอารมณ์เพียงเพราะอยากเอาชนะเกมให้ได้ในทุก ๆ ตา เพราะนั่นจะยิ่งทำให้คุณเสียการควบคุมและขาดทิศทางในการเดิมพัน

ประยุกต์ใช้สูตรเดินเงินให้เข้ากับสถานการณ์

แม้ผลของไพ่แต่ละตาจะคาดเดาไม่ได้ แต่การใช้สูตรเดินเงินและเพิ่มเงินเดิมพันอย่างเป็นระบบ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ดีทีเดียว โดยสูตรยอดนิยมที่เหล่าเซียนมักใช้กัน ได้แก่ สูตรแทงทบต้น, สูตรเดินเงินไม้ละ 4 ครั้ง หรือสูตรปรับเงินเดิมพันตามผลแพ้ชนะ

วิธีเดินเงินนี้ไม่ได้การันตีผลกำไร 100% แต่จะช่วยให้คุณมีแนวทางที่ชัดเจนในการลงเงินแต่ละตา และป้องกันไม่ให้ทุนหมดเร็วจนเกินไป หากนำมาปรับใช้ให้ดี มันจะเป็นทั้งเกราะและอาวุธที่ช่วยให้คุณรอดปลอดภัยและมีชัยเหนือเกมนี้ได้ไม่ยาก

ยกตัวอย่างเช่น สูตรเดินเงินแบบ 1-3-2-4 ที่เราจะลงทุนเริ่มต้นด้วยเงินขั้นต่ำ 1 หน่วย แล้วค่อย ๆ เพิ่มเป็น 3, 2 และ 4 หน่วยในตาต่อ ๆ มา หากเราแทงถูกครบทั้ง 4 ตา เราจะได้กำไรมากถึง 12 เท่าของเงินเดิมพันเริ่มต้นเลยทีเดียว แต่ต้องไม่ลืมว่าหากเสียในตาไหน ให้รีบตัดสินใจเริ่มต้นสูตรใหม่ทันที เพื่อจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น อย่าดื้อดึงเอาคืนโดยใช้อารมณ์ เพราะนั่นจะทำให้คุณไม่มีทุนเหลือพอที่จะต่อยอดในตาต่อ ๆ ไปนั่นเอง

สิ่งสำคัญคือการเลือกสูตรและจำนวนเงินเดิมพันที่สอดคล้องกับทุนที่มี อย่าใช้สูตรที่เสี่ยงเกินไปหากคุณมีทุนจำกัด และอย่าโลภมากเกินความพอดี ต้องรู้จักพอและเลิกเมื่อได้กำไรตามเป้าแล้ว เพื่อลดความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินที่หามาได้ในภายหลัง

ควบคุมอารมณ์และสติให้มั่นคงตลอดการเล่น

เรื่องของอารมณ์และสติเป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้เลยสำหรับการพนัน หากคุณคาดหวังที่จะประสบความสำเร็จในการเล่นบาคาร่า การรู้จักควบคุมตัวเองให้ได้ตลอดทั้งเกมจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เช่นกัน ในเกมการพนัน สติคือพระเอก ส่วนอารมณ์คืออุปสรรคสำคัญ คุณต้องรู้จักสังเกตอารมณ์ของตัวเองในขณะที่เล่น ว่ากำลังร้อนรนกับเกมหรือเย็นสบายพอที่จะคิดการต่อไปอย่างมีเหตุผล อย่าปล่อยให้ความโลภ ความโกรธ หรือความกลัว เข้ามาครอบงำจิตใจจนลืมคิดไตร่ตรอง

โดยเฉพาะในช่วงที่คุณมีโมเมนตัมที่ดีและกำลังได้กำไรเรื่อย ๆ อย่าเพิ่งประมาท คุณต้องตัดสินใจให้ดีว่าควรเล่นต่อหรือหยุดพักสักตา อย่าคิดว่าตัวเองกำลังโชคดีเลยลงเงินเดิมพันที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ จนขาดการไตร่ตรอง เพราะนั่นอาจทำให้คุณต้องสูญเสียกำไรทั้งหมดจากความประมาทเพียงไม่กี่ตาได้

ในทางกลับกัน เมื่อคุณเล่นเสียติดต่อกัน ก็ต้องรู้จักระงับอารมณ์เช่นกัน อย่าฝืนเล่นต่อเพื่อทวงทุนคืนด้วยความงุ่นง่าน เพราะคุณจะยิ่งเสียมากขึ้นเรื่อย ๆ จนหมดตัวในที่สุด เวลาที่อารมณ์ไม่ดี การพักเล่นแล้วออกมาสูดอากาศข้างนอกสักพัก จะช่วยให้คุณผ่อนคลายและกลับมาเล่นด้วยสติที่ดีขึ้น

สุดท้ายนี้ อย่าลืมว่าการเล่นพนันทุกชนิดมีความเสี่ยงเสมอ ต่อให้ระมัดระวังแค่ไหนก็ไม่มีอะไรการันตีได้ว่าจะชนะ 100% ดังนั้นคุณต้องยอมรับความจริงและเตรียมใจไว้เสมอว่าอาจมีวันที่ต้องแพ้บ้าง สิ่งสำคัญคือคุณต้องไม่เล่นด้วยเงินที่ประทังชีวิต และต้องรู้จักเลิกเสียก่อนจะสายเกินแก้

ตัวอย่างสูตรการเดินเงิน 4 ไม้แบบ 1-3-2-4

สำหรับนักพนันมือใหม่ที่มีทุนจำกัด การเล่นบาคาร่าให้ได้กำไรอาจดูเป็นเรื่องยาก แต่หากมีแบบแผนการลงทุนที่ดี อย่างเช่นสูตรการเดินเงิน 4 ไม้ ที่เราจะยกตัวอย่างให้ดูต่อไปนี้ คุณจะพบว่าแม้จะมีเงินแค่ 100 บาท ก็สามารถทำกำไรได้อย่างงดงามทีเดียว

สูตรนี้จะแบ่งการเดิมพันออกเป็น 4 ไม้ด้วยกัน โดยไม้แรกจะลงทุน 1 หน่วย ไม้ที่สอง 3 หน่วย ไม้ที่สาม 2 หน่วย และไม้สุดท้าย 4 หน่วย ยกตัวอย่างเช่น หากเราใช้ทุน 100 บาท และกำหนดให้ 1 หน่วยเท่ากับ 10 บาท เราจะวางเดิมพันแบบนี้

• ไม้ที่ 1 แทง 1 หน่วย เท่ากับ 10 บาท
• ไม้ที่ 2 แทง 3 หน่วย เท่ากับ 30 บาท
• ไม้ที่ 3 แทง 2 หน่วย เท่ากับ 20 บาท
• ไม้ที่ 4 แทง 4 หน่วย เท่ากับ 40 บาท

หากเราชนะครบทั้ง 4 ไม้ เราจะได้กำไรรวมทั้งสิ้น 120 บาท หรือคิดเป็น 12 หน่วย ซึ่งถือเป็นกำไรที่สูงมากเมื่อเทียบกับเงินทุนแค่ 100 บาทที่ลงไป

จุดเด่นของสูตรนี้คือความเสี่ยงที่ต่ำ เพราะถ้าเกิดแทงผิดในไม้ไหน เราสามารถตัดสินใจเริ่มสูตรใหม่ได้ทันที ด้วยการกลับไปเดิมพันที่ 1 หน่วยเหมือนเดิม ทำให้ไม่เสี่ยงต่อการขาดทุนมากจนเกินควบคุมนั่นเอง

เทคนิคการเดิมพันด้วยความระมัดระวังเพื่อจำกัดความเสี่ยง

แม้สูตรที่เราแนะนำจะช่วยจำกัดความเสี่ยงได้ดี แต่ก็ใช่ว่าจะชนะได้เสมอไป วิธีเพิ่มความปลอดภัยให้กับเงินทุนของเรา ก็คือการเลือกจังหวะและค่อย ๆ ทยอยลงทุนไปทีละน้อย มากกว่าการลุยเต็มที่ตั้งแต่ตาแรก

วิธีนี้เหมาะมากสำหรับมือใหม่ เพราะจะทำให้คุณค่อย ๆ ปรับตัวและสังเกตทิศทางไพ่ไปเรื่อย ๆ โดยเสี่ยงเงินทุนไม่มากในแต่ละตา แต่ต้องมีวินัยในการทำตามสูตรที่วางเอาไว้ให้ได้ อย่าเพิ่งปรับเปลี่ยนไปมาตามใจตัวเอง เพราะจะทำให้เสียจังหวะและหมดทุนไวกว่าที่คิด

นอกจากนี้ ให้เลือกแทงไพ่ฝั่งที่มีความได้เปรียบเสมอ ซึ่งสถิติชี้ชัดว่าการเดิมพันไพ่ฝั่งเจ้ามือ (Banker) นั้นมีโอกาสชนะมากกว่าผู้เล่น (Player) เล็กน้อย ดังนั้นหากคุณไม่มั่นใจ ให้เลือกแทงไปที่ฝั่งเจ้ามือก่อนเสมอ เพื่อเพิ่มโอกาสชนะในระยะยาว

และที่สำคัญ อย่าโลภมากจนเกินไป ต้องพอใจและหยุดเล่นเมื่อได้กำไรถึงเป้าหมายแล้ว อย่างเช่น 120 บาทต่อวันตามที่เราตั้งไว้ จงอย่าหลงกลไปกับช่วงที่กำลังได้ และเผลอไผลเล่นมากขึ้นจนเสียคืนหมดในภายหลัง เพราะนั่นคือกับดักใหญ่ของนักพนันที่คุณต้องระวัง

เคล็ดลับเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มโอกาสชนะในการเล่นบาคาร่าแต่ละครั้ง

สุดท้ายนี้ เรามีเคล็ดลับเสริมมาฝากเพื่อให้คุณได้กำไรจากบาคาร่ามากขึ้นไปอีก

• เลือกโต๊ะที่เหมาะสม โดยดูสถิติย้อนหลังของโต๊ะนั้น ๆ ก่อนว่าไพ่ออกรูปแบบใด เลือกโต๊ะที่มีไพ่ปกติ ไม่วิ่งเร็วหรือสลับไปมามากเกินไป
• อ่านเค้าไพ่และจับจังหวะ สังเกตว่าสถิติไพ่เป็นอย่างไร กำลังวิ่งสลับไปมาระหว่างผู้เล่นกับเจ้ามือหรือไม่ และค่อย ๆ ปรับการเดิมพันตามสถานการณ์
• เล่นอย่างใจเย็น อย่ารีบร้อนจนเกินไป ในบางตาที่อ่านเกมไม่ออก ก็สามารถงดเว้นไปก่อนได้ ไม่จำเป็นต้องเล่นทุกตาเสมอไป รอเพียงแค่จังหวะที่มั่นใจจริง ๆ แล้วค่อยลงมือ
• ควบคุมทุนให้ดี ใช้เงินเท่าที่พอเสียได้ในแต่ละวัน แบ่งสัดส่วนให้ชัดเจน เช่น วันละ 100 บาท เมื่อหมดก็หยุด อย่างเติมเงินเพิ่ม เพราะนั่นจะทำให้ควบคุมตัวเองได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ
• ทำใจให้สบาย มีสติตลอดเวลาที่เล่น และคิดเสมอว่าการพนันมีได้มีเสีย ดังนั้นต้องไม่หวังพึ่งโชคลางและเสี่ยงเงินมากเกินไป รู้จักพอ รู้จักหยุด และเลิกได้ตั้งแต่ที่ยังไม่สายเกินแก้

การจะเล่นบาคาร่าให้ชนะในระยะยาวนั้น นอกจากวิธีการดี ๆ แล้ว สิ่งสำคัญคือต้องมีวินัยและความอดทนเป็นเลิศ อย่าหวังรวยเร็วจากการพนัน แต่ให้มองมันเป็นการสร้างรายได้พิเศษจากงานอดิเรกที่ชื่นชอบ แล้วทุกอย่างจะง่ายและสนุกขึ้นอย่างคาดไม่ถึง

หวังว่าเคล็ดลับและเทคนิคทั้งหมดที่เรานำมาฝากในบทความนี้ จะช่วยให้คุณเป็นหนึ่งในผู้ชนะที่สามารถทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอจากเกมไพ่บาคาร่า และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้คุณสร้างความมั่นคงให้ชีวิตได้ดั่งใจหวัง

จำไว้เสมอว่าไม่มีอะไรได้มาโดยง่าย ต้องอาศัยเวลา ประสบการณ์ และความมุ่งมั่น วันนี้อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ แต่หากคุณมีความตั้งใจ ไม่ท้อถอย และนำคำแนะนำต่าง ๆ ไปปรับใช้อย่างเหมาะสม เชื่อเหลือเกินว่าสักวันความฝันที่จะเป็นนักพนันมืออาชีพและใช้ชีวิตอย่างอิสระจากรายได้ในคาสิโน ก็ไม่ใช่แค่ความฝันอีกต่อไป

ในบทความนี้ เราจะแนะนำเทคนิคขั้นพื้นฐานจากประสบการณ์กว่า 20 ปีในคาสิโนจริง ที่จะช่วยให้คุณเลือกโต๊ะได้ดีก่อนเล่น และทำกำไรจากไพ่บาคาร่าออนไลน์ได้มากขึ้น โดยไม่ต้องใช้โปรแกรมช่วย เพียงแค่เปิดใจเรียนรู้ คุณจะได้วิธีการเหล่านี้ไปใช้ได้ตลอดชีวิตภายใน 10 นาที

บาคาร่าเป็นเกมไพ่ที่มีให้บริการในคาสิโนสด โดยจะใช้ไพ่ 8 สำรับในการเล่นแต่ละชูส์ (เครื่องแจกไพ่) ทำให้เกิดแนวคิดและมุมมองในการทำความเข้าใจ เพื่อเลือกโต๊ะบาคาร่าให้เหมาะกับการเล่นมากที่สุด

การเลือกโต๊ะหรือห้องที่จะเล่น จึงเป็นตัวชี้วัดอย่างแรกที่ควบคุมได้ และเป็นส่วนสำคัญที่จะตัดสินว่าคุณจะทำกำไรได้หรือไม่จากการเล่นบาคาร่า ผู้เล่นส่วนใหญ่ร้อยละ 90 มองข้ามสิ่งง่ายๆ นี้ไป ทำให้พวกเขาเหล่านั้นเป็นแค่ “ผู้เล่น” ลองเปลี่ยนมุมมองใหม่เพื่อก้าวมาเป็น “ผู้นำ” ด้วยเทคนิคการเลือกห้องที่สามารถใช้ได้จริง จากประสบการณ์ในคาสิโนจริงที่ผ่านมา

ทำไมต้องเลือกห้องบาคาร่าที่ดีที่สุดในการเล่น

ประโยชน์และใจความสำคัญของการวิเคราะห์ เข้าใจหลักการ และเทคนิคต่างๆ ในการเลือกห้องบาคาร่า มีอยู่ 3 ข้อหลักๆ ดังต่อไปนี้

1. อ่านเค้าไพ่ได้ง่ายขึ้น

เทคนิคการเลือกโต๊ะ ทำให้คุณจดจำเค้าไพ่ที่น่าเล่นได้ และรู้ว่าเมื่อเจอไพ่แบบนี้ควรเล่นเกมไปในทิศทางใด รวมถึงสามารถเลือกได้ว่าควรหรือไม่ควรลงเดิมพันในตานั้นๆ การอ่านเค้าไพ่ได้ดีจะช่วยให้คุณวิเคราะห์สถานการณ์ในโต๊ะได้อย่างแม่นยำ สามารถคาดเดาผลลัพธ์ของไพ่ในตาถัดๆ ไปได้ ซึ่งจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าควรวางเดิมพันหรือหยุดเล่น ยิ่งสามารถอ่านเค้าไพ่ได้ดี จะยิ่งช่วยให้ปรับกลยุทธ์การเล่นได้อย่างเหมาะสม เสริมสร้างความมั่นใจให้ตัวเองเวลาลงเดิมพัน และมีสมาธิจดจ่ออยู่กับเกมได้ดีขึ้น

2. เพิ่มโอกาสชนะและรวยได้

การเลือกโต๊ะที่เข้าทางในการเล่น หมายถึงโอกาสในการทำกำไรก้อนโตที่มากขึ้น เพราะโต๊ะเหล่านั้นจะมีโอกาสชนะสูง ดีกว่าการเล่นแบบไร้ทิศทางหรือตามยถากรรม เมื่อเลือกห้องได้เหมาะสม คุณจะได้เปรียบตั้งแต่เริ่มต้น เพราะได้เล่นบนโต๊ะที่มีแนวโน้มเอื้อให้คุณชนะอยู่แล้ว เมื่อชนะต่อเนื่อง ก็ยิ่งทำให้คุณมีทุนทรัพย์ที่พร้อมจะต่อยอดไปสู่การวางเดิมพันที่มากขึ้น ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างกำไรและความรวยในระยะยาว ในทางกลับกัน การเล่นบนโต๊ะที่เค้าไพ่ไม่เป็นใจ จะทำให้โอกาสแพ้มีสูง คุณอาจจะเสียเงินตั้งแต่เกมแรก และหมดตัวไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการรู้จักเลือกโต๊ะที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มโอกาสชนะและโอกาสรวยให้คุณได้อย่างชัดเจน

3. ควบคุมจังหวะการเล่นได้ดีขึ้น

เมื่อเข้าใจหลักการในการเลือกโต๊ะแล้ว คุณจะสามารถปรับเปลี่ยนจังหวะการเล่นได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเร่งให้เร็วขึ้นหรือช้าลงก็ตาม เช่น เมื่อรู้สึกว่าเค้าไพ่กำลังเข้าทาง คุณอาจต้องการเร่งจังหวะด้วยการวางเดิมพันที่มากขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ทันจังหวะของเค้าไพ่และกอบโกยกำไรให้ได้มากที่สุด หรือเมื่อเห็นว่าเค้าไพ่เปลี่ยน ความได้เปรียบลดน้อยลง คุณอาจต้องการชะลอจังหวะ ลดการเดิมพันลงชั่วคราว หรืออาจต้องหยุดเล่นไปก่อนเพื่อดูสถานการณ์ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงและการสูญเสียที่ไม่จำเป็นได้

การควบคุมจังหวะการเล่นได้นี้ ทำให้คุณวางแผนบริหารการเงินได้ดีขึ้น ปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในโต๊ะ ซึ่งจะทำให้การเล่นบาคาร่าออนไลน์ของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

5 เทคนิคการเลือกห้องบาคาร่าที่มีโอกาสทำเงินมากที่สุด

ต่อไปนี้เป็น 5 เทคนิคในการเลือกห้องบาคาร่า ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรให้กับคุณ ซึ่งมาจากประสบการณ์จริงกว่า 20 ปีในบ่อนคาสิโนของผู้เขียนเอง เทคนิคเหล่านี้ไม่ได้ใช้สูตรคำนวณใดๆ แต่ใช้การดูกราฟและเค้าไพ่เพื่อหาจังหวะที่เหมาะสมในการเล่น ซึ่งสามารถทำเงินได้จริงหากสามารถมองเห็นความแตกต่างของโต๊ะเหล่านี้

1. โต๊ะแนวตัด (Cut Line Table)

โต๊ะที่มีแนวตัดเป็นโต๊ะที่น่าสนใจ เพราะสามารถทำเงินได้ไม่ยาก โดยให้สังเกตรอยตัดที่เกิดจากการสลับกันแพ้ชนะของฝั่งเจ้ามือ (Banker) และฝั่งผู้เล่น (Player) ในกราฟภาพรวม (Big Road) ซึ่งอาจเกิดเป็นรูปแบบ 2 แนวตัดที 3 แนวตัดที หรือ 4 แนวตัดทีก็ได้

วิธีดูโต๊ะแนวตัด ให้สังเกตในกราฟ Big Road ว่าในทุกๆ ครั้งที่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งชนะครบ 3 ครั้ง จะมีการสลับฝั่งทันที แต่จะไม่มีฝั่งใดที่ชนะเกิน 3 ครั้งติดต่อกัน

หากพบโต๊ะลักษณะนี้ ให้เลือกห้องที่พึ่งเปิดใหม่ไม่นาน แล้วแทงตามแนวตัดไปเรื่อยๆ ไม่เกินจำนวนแนวตัด (2, 3 หรือ 4) และเปลี่ยนฝั่งทันทีเมื่อครบจำนวนตามแนวนั้นๆ

2. โต๊ะมังกร (Dragon Table)

โต๊ะมังกรเป็นโต๊ะที่จะเห็นการชนะรัวๆ ติดต่อกันเป็นแถวยาว ไม่ว่าจะเป็นของฝั่งเจ้ามือหรือฝั่งผู้เล่นก็ตาม ดูคล้ายกับรูปมังกรที่ลากยาวไปในกราฟ Big Road เมื่อเจอโต๊ะแบบนี้แล้วอย่ารอช้า ให้รีบเข้าไปวางเดิมพันทันที

วิธีดูโต๊ะมังกร ให้สังเกตในกราฟ Big Road ว่าตัวที่ชนะรัวๆ แบบเรียงติดกันยาวนั้น ดูคล้ายหางมังกรที่เลื้อยตลอดกระดานหรือไม่ และยิ่งถ้ามีแต้มเสมอ (Tie) ปรากฎอยู่ในมังกรตัวนั้นด้วย ยิ่งเป็นการยืนยันว่านี่คือโต๊ะมังกรแน่นอน เมื่อพบโต๊ะมังกรแล้ว ให้เลือกแทงไปตามตัวมังกรนั้นได้เรื่อยๆ แต่ห้ามแทงสวนเด็ดขาด เพราะมีโอกาสแพ้สูงมาก โต๊ะมังกรนี้เปรียบเสมือนเครื่องแจกเงินที่จะช่วยให้คุณรวยได้ง่ายๆ

3. โต๊ะปิงปอง (Ping Pong Table)

โต๊ะปิงปองเป็นโต๊ะที่มีลักษณะชัดเจนที่สุด โดยเมื่อดูที่กราฟ Big Road จะเห็นการแพ้ชนะสลับกันไปมาอย่างเป็นระเบียบ ระหว่างฝั่งเจ้ามือและฝั่งผู้เล่น โดยจะสลับกันไปมาครั้งละ 1 ตา พลัดกันแพ้ชนะอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้เกิดลวดลายการสลับสีแดงน้ำเงินในกราฟที่ชัดเจน

วิธีดูโต๊ะปิงปอง ให้มองหาการแพ้ชนะสลับกันทีละครั้งในกราฟ Big Road โดยจะไม่มีฝั่งใดชนะ 2 ครั้งติดต่อกัน ถ้าเจอโต๊ะลักษณะนี้ให้หยุดมองเลย เพราะนี่คือโต๊ะปิงปองแน่นอน เมื่อพบโต๊ะปิงปองแล้ว ให้เลือกแทงสวนไปเรื่อยๆ โดยดูว่าตาที่แล้วฝ่ายใดชนะ ให้แทงอีกฝั่งที่แพ้ในตาถัดไป วนไปแบบนี้ไปเรื่อยๆ เพราะโต๊ะนี้จะมีโอกาสชนะสูงมาก

4. โต๊ะโกลเด้นไลน์ (Golden Line Table)

โต๊ะโกลเด้นไลน์เป็นอีกหนึ่งเทคนิคในการดูโต๊ะจากเส้นตัด ซึ่งจะใช้ได้ผลเกือบ 90% ผ่านการวิเคราะห์กราฟหลักแบบจีน (Pearl Road) โดยถ้าสังเกตเห็นแนวตัดชัดเจนเกิดขึ้นในกราฟนี้ ให้รู้ไว้เลยว่านี่คือสัญญาณของโกลเด้นไลน์ ซึ่งเกิดจากการสับไพ่ตามธรรมชาติ

วิธีดูโต๊ะโกลเด้นไลน์ ให้มองที่กราฟ Pearl Road ซึ่งเป็นกราฟที่บันทึกแพ้ชนะแบบแนวตั้ง จากนั้น ให้สังเกตแนวตัดด้านซ้ายมือที่เกิดขึ้น โดยดูว่าฝั่งใดชนะที่แนวตัดนี้บ่อยที่สุด ถ้าเจอแนวตัดชัดเจนแล้ว ให้เลือกแทงฝั่งนั้นตรงแนวตัดนี้ได้เลย แทงไปได้เรื่อยๆ เพราะมีโอกาสชนะสูง

5. โต๊ะที่แตกต่างชัดเจน (Big Difference Table)

โต๊ะที่แตกต่างชัดเจนเป็นโต๊ะที่ไม่มีความได้เปรียบเสียเปรียบ เพราะจะมีแค่ฝ่ายเดียวได้เปรียบตลอดทั้งเกม ถ้าฝ่ายเจ้ามือชนะก็จะชนะรัวๆ ถ้าฝ่ายผู้เล่นชนะก็จะรัวเช่นกัน โดยจะไม่มีการสลับฝั่งบ่อยๆ

วิธีดูโต๊ะที่แตกต่างชัดเจน ให้มองหาในกราฟ Big Road ว่ามีสีใดสีหนึ่งชนะติดต่อกันหลายๆ ตามากกว่าปกติหรือไม่ โดยอาจมีแต้มเสมอ (Tie) ปรากฎขึ้นมาบ้าง ถ้าเจอแบบนี้ให้จำไว้เลยว่าโต๊ะนี้แตกต่างชัดเจนแน่นอน และมักจะเล่นได้ดีไปจนถึงช่วงกลางเกม

เมื่อพบโต๊ะนี้ ให้พิจารณาดูสักครู่ว่าฝั่งใดกำลังชนะรัวๆ จากนั้นให้แทงตามฝั่งนั้นไปได้เรื่อยๆ จนกว่าเค้าไพ่จะเปลี่ยนไป แต่ถ้าหากเค้าไพ่เปลี่ยนแปลงไป ก็ให้หยุดเล่นทันที เพราะอาจจะไม่ได้เปรียบแล้ว

ข้อควรระวังในการเลือกห้องบาคาร่า

แม้ว่าจะมีเทคนิคดีๆ ในการเลือกห้องบาคาร่ามากมาย แต่ก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จได้เสมอไป เพราะการเล่นพนันย่อมมีความเสี่ยงอยู่ในตัว ดังนั้นนอกจากจะรู้วิธีเลือกโต๊ะแล้ว ก็ต้องระวังในการเล่นด้วย เพื่อลดความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินโดยใช่เหตุ

ต่อไปนี้เป็นข้อควรระวังในการเลือกห้องบาคาร่า ที่คุณต้องคำนึงถึงและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากอยากเพิ่มโอกาสชนะและทำกำไรจากเกมนี้ให้ได้มากที่สุด

1. เลือกเล่นห้องที่เปิดไม่นาน

ให้เลือกห้องบาคาร่าที่พึ่งเปิดใหม่ และมีการเล่นไปไม่นาน จะทำให้มองเห็นทิศทางและแนวโน้มของไพ่ได้ง่ายกว่า ซึ่งจะเป็นตัวช่วยสำคัญให้คุณสามารถเลือกโต๊ะได้เหมาะสมยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะแนวตัด โต๊ะมังกร โต๊ะปิงปอง โต๊ะโกลเด้น ไลน์ หรือโต๊ะแบบใดก็ตาม

เพราะเมื่อห้องเปิดมานาน ข้อมูลไพ่ที่ผ่านมาจะมีปริมาณมาก อาจจะวิเคราะห์เค้าไพ่ได้ยากขึ้น รวมถึงเจ้ามือหรือผู้เล่นบางคนที่อยู่ในโต๊ะมานาน อาจจะมีการปรับตัวหรือเปลี่ยนสไตล์การเล่นไปแล้ว ทำให้การอ่านเกมทำได้ยากกว่าเดิม ดังนั้นหากอยากเพิ่มโอกาสชนะ ก็ควรเลือกโต๊ะใหม่ๆ ที่มีข้อมูลไม่มากนัก จะสามารถใช้เทคนิคได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากกว่า

2. ไม่จำเป็นต้องเล่นทุกตา

การรู้จักเลือกที่จะลงเดิมพัน ก็เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับสำคัญในการเอาชนะบาคาร่า ซึ่งนักพนันที่ดีจะเลือกเล่นเฉพาะตาที่ตนมีโอกาสชนะสูงที่สุดเท่านั้น ไม่ใช่ว่าจะต้องเล่นให้ครบทุกรอบ เนื่องจากเกมบาคาร่ามีความรวดเร็วของไพ่ค่อนข้างสูง การแจกไพ่แต่ละตาจะใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที ดังนั้นอย่าได้กลัวว่าถ้าไม่เล่นตาไหนแล้วจะพลาดสิ่งดีๆ ไป เพราะอีกไม่นานก็จะมีรอบต่อไปให้คุณได้เล่นอยู่แล้ว ให้รอคอยจังหวะที่ดีที่สุด ที่คุณมั่นใจมากที่สุดค่อยลงเดิมพัน เพื่อเป็นการเพิ่มสัดส่วนของการทำกำไร ดีกว่าที่จะไปเสี่ยงลงทุกตาแล้วมีโอกาสเสียมากกว่าได้ เล่นอย่างใจเย็น อย่าใจร้อน แค่นี้ก็ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำเงินได้ดีทีเดียว

3. สังเกตเค้าไพ่แบบผสมให้ดี

ในความเป็นจริง เราอาจไม่ได้เจอห้องที่มีเค้าไพ่ในรูปแบบที่ต้องการเสมอไป บางครั้งในห้องเดียวกัน ก็อาจมีเค้าไพ่หลากหลายแบบผสมปนเปกันไป ซึ่งถ้ามีความหลากหลายมากเกินไป ก็อาจจะอ่านยาก แทบใช้เทคนิคอะไรไม่ได้เลย

ดังนั้นหากเจอห้องที่มีเค้าไพ่หลายแบบมากกว่า 3-4 แบบ ให้หลีกเลี่ยงการเล่นไปก่อน แต่ถ้ามีแค่ 2-3 แบบ ก็ยังพอใช้เทคนิคบางอย่างประยุกต์เล่นได้ เช่น เจอทั้งแนวตัดและมังกรในห้องเดียวกัน หรือ เจอทั้งปิงปองและโกลเด้นไลน์ เป็นต้น เพื่อความปลอดภัย ไม่ควรฝืนเล่นในห้องที่อ่านเค้าไพ่ยาก เนื่องจากจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงโดยไม่จำเป็น สู้รอหาห้องที่อ่านง่ายกว่าดีกว่า ถึงแม้อาจต้องเสียเวลารอบ้าง แต่ก็คุ้มค่ากว่าที่จะไปเสียเงินเปล่าๆ โดยใช่เหตุ

4. หยุดเล่นเมื่อถึงเวลา

ความสำเร็จในการเล่นบาคาร่า ไม่ได้วัดกันที่ว่าจะนั่งเล่นได้นานแค่ไหน แต่อยู่ที่ว่าคุณบริหารจัดการกำไรและความเสี่ยงได้ดีเพียงใด การรู้จักควบคุมตัวเองให้หยุดได้ตามเป้าหมายนั้น สำคัญกว่าเทคนิคหรือสูตรใดๆ ทั้งสิ้น ก่อนเริ่มเล่น ให้ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนไว้ก่อนเสมอ ว่าวันนี้จะเล่นด้วยทุนประมาณเท่าไหร่ และพอได้กำไรตามที่หวังแล้วจะออกยังไง เช่น ถ้าตั้งทุนไว้ 5000 บาท เมื่อทำกำไรได้ถึง 5000 บาทเช่นกัน ก็ให้หยุดเล่นทันที

และในทางกลับกัน หากขาดทุนหมดตามงบที่ตั้งไว้ ก็ให้หยุดเล่นเช่นเดียวกัน อย่าเล่นต่อให้หมดตัว อย่าคิดว่าเดี๋ยวจะได้คืนหรอก เพราะยิ่งเล่นก็ยิ่งเสี่ยง และมีโอกาสเป็นหนี้บานปลายมากขึ้น เพราะเกมบาคาร่าเปิดให้เล่นตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน ไม่มีหยุด ดังนั้นไม่จำเป็นต้องฝืนนั่งเล่นจนหมดตัว ถ้าเล่นไม่ดีเมื่อไหร่ ก็พักไปก่อน ค่อยกลับมาเล่นใหม่วันหลังก็ได้ ใจเย็นๆ รอให้พร้อมค่อยมาเสี่ยงโชคกันใหม่ ชีวิตยังยาวไกล อย่าทำให้เดือดร้อนเพราะบาคาร่าเป็นอันขาด

5. เล่นกับเว็บพนันคุณภาพเท่านั้น

ข้อสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยคือ การเลือกเว็บพนันที่มีคุณภาพ ซึ่งหลายคนมองข้ามไป เพราะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริงๆ แล้ว ถ้าเราเลือกเล่นผิดเว็บ ไม่ว่าจะเทคนิคดีแค่ไหนก็ใช้ไม่ได้ผลเท่าที่ควร การเลือกเว็บพนันให้ดูความน่าเชื่อถือเป็นหลัก โดยสังเกตได้จากการมีใบอนุญาตที่ถูกต้องตามกฎหมาย มาตรฐานการให้บริการที่ดี มีระบบรักษาความปลอดภัยสูง ไม่เคยมีประวัติการโกงมาก่อน เป็นต้น

ควรเลือกเล่นกับเว็บตรงที่ไม่ผ่านเอเย่นต์ เพราะจะได้ราคาดีกว่า มีโปรโมชั่นคุ้มค่ากว่า และไม่เสี่ยงถูกเบี้ยวจ่ายเงินรางวัล ส่วนเว็บลูกหรือเอเย่นต์นั้น นอกจากค่าน้ำจะแพงกว่าแล้ว ยังมีโอกาสเสี่ยงถูกโกงได้มากกว่าด้วย

สุดท้าย อย่าหลงเชื่อเว็บที่ใช้สูตรบาคาร่า เค้าไพ่ หรือข้อมูลเกมที่ดูเหมือนจะแม่นยำเกินจริง เพราะพวกนี้ล้วนตั้งใจหลอกล่อให้เราหลงเชื่อ แล้วเข้าไปเสียเงินเปล่าๆ เท่านั้น ไม่มีสูตรไหนการันตีชัยชนะได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ มีแต่เราเองที่ต้องศึกษา และฝึกฝนจนชำนาญ แล้วท้ายที่สุดก็ต้องใช้วิจารณญาณของตัวเองในการตัดสินใจ

แม้ว่าจะมีกลยุทธ์และเทคนิคมากมายที่ถูกนำมาใช้ แต่สุดท้ายแล้ว ผลลัพธ์ของเกมก็ยังคงขึ้นอยู่กับดวงเป็นสำคัญ บทความนี้จะพาผู้อ่านไปทำความรู้จักกับระบบการเดิมพันบาคาร่ายอดนิยมต่างๆ รวมถึงอัตราการจ่ายเงินและข้อมูลสำคัญที่ผู้เล่นควรทราบ เพื่อเพิ่มความเข้าใจและเพลิดเพลินไปกับการเดิมพันบาคาร่าบนเว็บไซต์ KUBET ได้อย่างเต็มที่

ระบบมาร์ติงเกล (Martingale System)

ระบบมาร์ติงเกลเป็นหนึ่งในระบบการเดิมพันที่เก่าแก่และเป็นที่นิยมมากที่สุด ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในเกมที่มีการเดิมพันแบบ 1 ต่อ 1 เช่น บาคาร่า รูเล็ต และแบล็คแจ็ค หลักการของระบบนี้คือ การเพิ่มเงินเดิมพันเป็นสองเท่าหลังจากแพ้ในแต่ละครั้ง จนกว่าจะชนะและได้กำไรจากการเดิมพันครั้งนั้น

วิธีการใช้ระบบมาร์ติงเกลในบาคาร่า มีดังนี้

1. เลือกวางเดิมพันที่ฝั่งผู้เล่น (Player) หรือฝั่งเจ้ามือ (Banker) ด้วยจำนวนเงินที่เท่ากันในทุกตา
2. หากชนะ ให้เดิมพันด้วยจำนวนเงินเดิมในตาถัดไป
3. หากแพ้ ให้เพิ่มเงินเดิมพันเป็นสองเท่าในตาถัดไป
4. ทำซ้ำขั้นตอนที่ 2 และ 3 จนกว่าจะชนะ จากนั้นให้เริ่มต้นด้วยจำนวนเงินเดิมพันเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

ยกตัวอย่างเช่น สมมติว่าเราเริ่มต้นด้วยการเดิมพัน 100 บาท หากแพ้ในตาแรก เราจะต้องเพิ่มเงินเดิมพันเป็น 200 บาทในตาถัดไป หากยังแพ้อีก ก็ให้เพิ่มเป็น 400 บาท ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะชนะ ซึ่งเมื่อชนะแล้ว กำไรที่ได้จะเท่ากับจำนวนเงินเดิมพันเริ่มต้น (ในกรณีนี้คือ 100 บาท)

ข้อดีของระบบมาร์ติงเกลคือ เมื่อชนะ จะได้กำไรเท่ากับจำนวนเงินเดิมพันเริ่มต้นเสมอ ไม่ว่าจะแพ้ไปกี่ตาก่อนหน้านั้น อย่างไรก็ตาม ข้อเสียที่สำคัญคือ เงินทุนอาจหมดลงอย่างรวดเร็วหากเกิดสตรีคของการแพ้ติดต่อกันหลายตา เนื่องจากการเพิ่มเงินเดิมพันเป็นสองเท่านั้น ทำให้ยอดเงินที่ใช้เดิมพันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก นอกจากนี้ โต๊ะบาคาร่าส่วนใหญ่มักมีวงเงินเดิมพันสูงสุด ซึ่งอาจทำให้ไม่สามารถเพิ่มเงินเดิมพันต่อไปได้อีก

ระบบพาโรลี (Paroli System)

ระบบพาโรลีเป็นอีกหนึ่งระบบที่ได้รับความนิยมในเกมบาคาร่า โดยจะมีวิธีการที่ตรงกันข้ามกับระบบมาร์ติงเกล กล่าวคือ ระบบพาโรลีจะเป็นการเพิ่มเงินเดิมพันเป็นสองเท่าเมื่อชนะ แทนที่จะเป็นตอนแพ้ เป้าหมายของระบบนี้คือการใช้ประโยชน์จากช่วงที่กำลังมีสตรีคที่ดี เพื่อทำกำไรให้ได้มากที่สุด

วิธีการใช้ระบบพาโรลีในบาคาร่า มีดังนี้

1. เลือกวางเดิมพันที่ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ด้วยจำนวนเงินเริ่มต้นตามต้องการ
2. หากชนะ ให้เพิ่มเงินเดิมพันเป็นสองเท่าในตาถัดไป
3. หากแพ้ ให้เริ่มต้นด้วยจำนวนเงินเดิมพันเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
4. หลังจากชนะ 3 ตาติดต่อกัน ให้เริ่มต้นใหม่ด้วยจำนวนเงินเดิมพันเริ่มต้น เพื่อลดความเสี่ยงจากการสูญเสียเงินที่ได้มาจากการชนะก่อนหน้านี้

ยกตัวอย่างเช่น สมมติว่าเริ่มต้นด้วยการเดิมพัน 100 บาทและชนะ ในตาถัดไป ให้เพิ่มเงินเดิมพันเป็น 200 บาท หากชนะอีก ก็เพิ่มเป็น 400 บาท และหากชนะต่ออีกเป็นตาที่ 3 ก็จะได้กำไรรวม 700 บาท (100+200+400) จากนั้นให้เริ่มต้นใหม่ที่ 100 บาท ไม่ว่าตาที่ 4 จะแพ้หรือชนะก็ตาม เพื่อลดความเสี่ยงที่จะสูญเสียกำไรที่ทำได้จากการชนะ 3 ตาติดต่อกัน

ข้อดีของระบบพาโรลีคือ ใช้ทุนในการเดิมพันค่อนข้างต่ำ มีโอกาสได้กำไรสูง หากเกิดสตรีคที่ชนะหลายๆ ตาติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม ผลกำไรและความสำเร็จของระบบนี้ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์และการตัดสินใจของผู้เล่นเป็นหลัก ว่าจะเลือกหยุดเดิมพันเมื่อไหร่ ก่อนที่สตรีคที่ดีจะจบลงและเริ่มขาดทุน

ระบบลาบูแชร์ (Labouchere System)

ระบบลาบูแชร์ เป็นระบบที่ต้องอาศัยการจดบันทึกตัวเลขในแต่ละรอบของการเดิมพัน โดยจะมีการนำตัวเลขมารวมกันตามลำดับ เพื่อกำหนดจำนวนเงินเดิมพันในแต่ละตา เป้าหมายสูงสุดคือการทำให้ลำดับตัวเลขในบันทึกหมดลง ซึ่งเมื่อถึงจุดนั้น จะถือว่าทำกำไรตามที่คาดหมายไว้แล้ว

วิธีการใช้ระบบลาบูแชร์ในบาคาร่า มีดังนี้

1. เขียนลำดับตัวเลขตามที่ต้องการ เช่น 1, 2, 3, 4, 5, 6
2. นำตัวเลขลำดับแรกและลำดับสุดท้ายมารวมกัน เพื่อกำหนดเป็นจำนวนเงินเดิมพัน (ในตัวอย่างนี้ คือ 1+6 = 7)
3. หากเดิมพันชนะ ให้ขีดฆ่าตัวเลขลำดับแรกและลำดับสุดท้ายออกจากบันทึก
4. หากเดิมพันแพ้ ให้นำจำนวนเงินเดิมพันที่เสียไปนั้น ไปต่อท้ายลำดับตัวเลขในบันทึก
5. ทำซ้ำขั้นตอนที่ 2-4 จนกว่าจะชนะรวมเท่ากับจำนวนตัวเลขทั้งหมดที่อยู่ในบันทึกเมื่อเริ่มต้น

ยกตัวอย่างเช่น สมมติว่ามีลำดับตัวเลขดังนี้ 1, 2, 3, 4, 5, 6

• ตาแรก เดิมพัน 7 หน่วย (1+6) ถ้าชนะ จะเหลือเพียง 2, 3, 4, 5
• ตาที่สอง เดิมพัน 7 หน่วย (2+5) ถ้าแพ้ บันทึกจะเป็น 2, 3, 4, 5, 7
• ตาที่สาม เดิมพัน 9 หน่วย (2+7) ถ้าชนะ จะเหลือเพียง 3, 4, 5
• ทำเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ครบทุกตัวเลขในบันทึก

ข้อดีของระบบลาบูแชร์คือ เป็นระบบที่ค่อนข้างยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนลำดับตัวเลขได้ตามต้องการ อีกทั้งยังสามารถเพิ่มเงินเดิมพันได้แบบค่อยเป็นค่อยไป ทำให้มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนมากในทันทีค่อนข้างต่ำ อย่างไรก็ตาม หากเกิดสตรีคแพ้หลายๆ ตา ก็อาจทำให้ลำดับตัวเลขยาวมาก และต้องใช้ทุนสูงในการเดิมพันเช่นกัน

ระบบฟีโบนักชี (Fibonacci System)

ระบบฟีโบนักชีเป็นระบบการเดิมพันที่ได้แรงบันดาลใจมาจากลำดับฟีโบนักชีที่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นลำดับตัวเลขที่เริ่มต้นจาก 0 และ 1 จากนั้นตัวเลขถัดไปจะเป็นผลรวมของตัวเลข 2 ตัวก่อนหน้า (0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, …) โดยระบบนี้จะใช้ลำดับตัวเลขฟีโบนักชีเป็นจำนวนหน่วยในการเดิมพัน และจะเพิ่มหรือลดจำนวนเงินเดิมพันตามผลแพ้ชนะในแต่ละตา

วิธีการใช้ระบบฟีโบนักชีในบาคาร่า มีดังนี้

1. เริ่มต้นด้วยการเดิมพัน 1 หน่วย
2. หากแพ้ ให้ย้ายไปเดิมพันตัวเลขถัดไปตามลำดับฟีโบนักชี
3. หากชนะ ให้ย้อนกลับไปเดิมพัน 2 ตัวเลขก่อนหน้า
4. ดำเนินการเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงตัวเลข 1 อีกครั้ง ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของการเดิมพัน

ยกตัวอย่างเช่น สมมติเริ่มต้นด้วยการเดิมพัน 1 หน่วย

• ถ้าแพ้ ให้ไปเดิมพัน 1 หน่วย (เลขถัดไปในลำดับ)
• ถ้าแพ้ ให้ไปเดิมพัน 2 หน่วย (เลขถัดไปในลำดับ)
• ถ้าชนะ ให้ย้อนกลับไปเดิมพัน 1 หน่วย (2 ตัวเลขก่อนหน้า)
• ถ้าชนะ ให้เริ่มต้นใหม่ที่ 1 หน่วย

ข้อดีของระบบฟีโบนักชีคือ เป็นระบบที่ง่ายต่อการทำความเข้าใจและปฏิบัติตาม อีกทั้งจำนวนเงินที่ใช้ในการเดิมพันจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ไม่รวดเร็วและรุนแรงเหมือนระบบมาร์ติงเกล ทำให้มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนมากในทันทีค่อนข้างต่ำ อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดการขาดทุนหลายๆ ตาติดต่อกัน จำนวนเงินเดิมพันก็จะสูงขึ้นมากตามลำดับเช่นกัน

ข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับระบบเดิมพัน

แม้ว่าระบบการเดิมพันที่กล่าวมาทั้งหมดจะมีความน่าสนใจ และดูเหมือนจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากเกมบาคาร่า แต่สิ่งสำคัญที่ผู้เล่นทุกคนต้องตระหนักไว้เสมอก็คือ ไม่มีระบบการเดิมพันใดที่สามารถเอาชนะความได้เปรียบของเจ้ามือ (house edge) ได้อย่างแท้จริง ทุกระบบล้วนถูกออกแบบมาบนพื้นฐานของการเกิดสตรีคของการชนะหรือการแพ้ที่อาจเกิดขึ้นในระยะสั้นเท่านั้น แต่ไม่ได้คำนึงถึงความได้เปรียบของคาสิโนในระยะยาว

สำหรับเกมบาคาร่า ความได้เปรียบของเจ้ามืออยู่ที่ประมาณ 1.06% สำหรับการเดิมพันฝั่งเจ้ามือ (Banker) และ 1.24% สำหรับการเดิมพันฝั่งผู้เล่น (Player) ซึ่งตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ในระยะยาวแล้ว คาสิโนจะมีกำไรจากการเดิมพันของผู้เล่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะใช้ระบบการเดิมพันแบบใดก็ตาม

อีกประเด็นที่ควรพิจารณาคือ การนำระบบเดิมพันบางอย่างมาใช้ เช่น มาร์ติงเกลและลาบูแชร์ อาจต้องการเงินทุนสำรองที่สูงมาก หากเกิดสตรีคของการแพ้ขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้เงินทุนของผู้เล่นหมดลงอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ระบบจะทำงานได้ผลดังที่ต้องการ

ดังนั้น แทนที่จะพึ่งพาระบบการเดิมพันเหล่านี้ ผู้เล่นควรให้ความสำคัญกับการจัดการเงินทุนและทัศนคติที่เหมาะสมมากกว่า พึงระลึกไว้เสมอว่า การพนันเป็นรูปแบบหนึ่งของความบันเทิง ไม่ใช่วิธีการทำเงินที่ยั่งยืน จงกำหนดงบประมาณสำหรับการเล่นที่คุณสามารถจ่ายได้ โดยไม่กระทบต่อเงินเก็บหรือค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน และหากรู้สึกว่ากำลังเสียการควบคุม ก็ควรหยุดเล่นทันที อย่าหลงเชื่อว่าต้องไล่ตามเงินที่เสียไปให้ได้ เพราะนั่นเป็นความคิดที่อันตราย และมักนำไปสู่ปัญหาที่ใหญ่กว่าเดิมเสมอ

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้ระบบเดิมพันแบบใด สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องรู้จักควบคุมตัวเอง เล่นอย่างมีสติ และหยุดเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เกมบาคาร่าเป็นเกมที่สนุกและน่าตื่นเต้น แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่ไม่อาจมองข้าม ผู้เล่นทุกคนควรตระหนักถึงข้อจำกัดของตนเอง และเล่นอย่างรับผิดชอบเสมอ เพื่อให้การเดิมพันเป็นประสบการณ์ที่เพลิดเพลินและไม่ส่งผลเสียต่อชีวิตและการเงินในระยะยาว

หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกับระบบการเดิมพันยอดนิยมในเกมบาคาร่าไปแล้ว คราวนี้เราจะมาเจาะลึกถึงอัตราการจ่ายเงิน และเคล็ดลับที่น่าสนใจอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เล่นมีความเข้าใจในเกมมากยิ่งขึ้น และสามารถวางแผนการเดิมพันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กำหนดขีดจำกัด

การกำหนดขีดจำกัดในการเล่นถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดของการพนันอย่างมีความรับผิดชอบ ผู้เล่นควรกำหนดวงเงินสูงสุดที่ยอมรับได้ทั้งในแง่ของการแพ้และการชนะ และยึดมั่นในขีดจำกัดเหล่านั้นอย่างเคร่งครัด

สำหรับการกำหนดขีดจำกัดการขาดทุน (stop loss) ผู้เล่นอาจเลือกตั้งค่าไว้ที่จำนวนเงินคงที่ เช่น 5,000 บาท หรือเป็นอัตราส่วนของแบ๊งค์ เช่น 20% ของเงินทุนทั้งหมด หลังจากแพ้เท่ากับจำนวนที่กำหนดไว้ ให้หยุดเล่นทันทีและเดินออกจากโต๊ะ อย่ายอมแพ้ต่ออารมณ์ชั่ววูบที่อยากเอาคืน เพราะอาจนำไปสู่การสูญเสียที่มากขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่มีที่สิ้นสุด

ในทำนองเดียวกัน การตั้งเป้าหมายกำไรสูงสุดต่อวัน (daily win limit) ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพื่อที่ว่าเมื่อได้กำไรถึงระดับที่น่าพอใจแล้ว ก็ควรเลิกเล่นและถอนเงินออกมาบางส่วนหรือทั้งหมด ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการพลิกผันและเสียกำไรที่ทำได้จากการเล่นที่ยาวนานเกินไป

บทความนี้จึงจะสอนวิธีอ่านกราฟบาคาร่าอย่างละเอียดครบถ้วน เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และมือโปร พร้อมข้อแนะนําเทคนิคต่างๆ เพื่อให้สามารถอ่านและวิเคราะห์กราฟได้อย่างแม่นยํา นําไปสู่ชัยชนะในการเดิมพันบาคาร่าออนไลน์

กราฟบาคาร่า คืออะไร

กราฟบาคาร่า คือ ตารางสถิติที่แสดงผลการออกรางวัลในแต่ละรอบของเกมบาคาร่า โดยจะบันทึกผลว่าแต่ละรอบนั้น ฝั่งใดเป็นผู้ชนะ (ไม่ว่าจะเป็นฝั่งเจ้ามือ ฝั่งผู้เล่น หรือเสมอ) กราฟบาคาร่าจะบันทึกผลตั้งแต่รอบแรกจนถึงรอบสุดท้ายที่เล่น ซึ่งช่วยให้ผู้เล่นสามารถมองเห็นพัฒนาการของการออกผลรางวัลในภาพรวม ว่ามีแนวโน้มอย่างไร เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจเดิมพันในแต่ละรอบ กราฟบาคาร่าจะแสดงอยู่ภายในห้องเดิมพันบาคาร่า เพื่อให้ผู้เล่นได้ศึกษาและวิเคราะห์ก่อนการเดิมพันแต่ละรอบ จึงถือได้ว่าเป็นเครื่องมือสำคัญอย่างมากสำหรับการเล่นบาคาร่า

ความหมายของสีในกราฟบาคาร่า

ภายในกราฟบาคาร่า จะประกอบด้วยสีต่างๆ เพื่อแทนความหมายของผลลัพธ์ในแต่ละรอบ สีเหล่านี้มีความสำคัญอย่างมากในการอ่านและทำความเข้าใจกราฟ ดังนั้นผู้เล่นจำเป็นต้องรู้จักสีเหล่านี้เป็นอันดับแรก สีที่ใช้ในกราฟบาคาร่ามี 3 สีหลัก ได้แก่ สีแดง แทนฝั่งเจ้ามือ (Banker) ชนะ, สีน้ำเงิน แทนฝั่งผู้เล่น (Player) ชนะ และสีเขียว แทนผลเสมอ (Tie)

นอกจากนี้ บางครั้งอาจพบสีอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น สีเหลือง สีม่วง ที่ใช้แทนสถานะพิเศษต่างๆ ภายในกราฟ เช่น สายโกลเด้น, แนวโน้มการออกผลรางวัล เป็นต้น ผู้เล่นควรศึกษาความหมายของสีเหล่านี้ให้เข้าใจ เพื่อให้สามารถอ่านกราฟได้อย่างถูกต้อง

ประเภทของกราฟบาคาร่า

กราฟบาคาร่าสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก คือ

กราฟหลัก (Main Graph)

ได้แก่ กราฟที่แสดงผลการออกรางวัลในแต่ละรอบอย่างละเอียด แบ่งเป็น 2 ชนิดย่อย คือ

• กราฟภาพรวม (Big Road) : แสดงผลแบบภาพรวม โดยใช้สัญลักษณ์เป็นวงกลม
• กราฟแบบจีน (Pearl Road) : แสดงผลแบบละเอียด มีตัวอักษรแทนผลในแต่ละรอบ

กราฟทํานาย (Prediction Graph)

ได้แก่ กราฟที่คาดการณ์แนวโน้มผลการออกรางวัลล่วงหน้า แบ่งเป็น 3 ชนิดย่อย คือ

• กราฟโดนัท (Big Eye Road) : ทํานายผลโดยใช้สัญลักษณ์เป็นวงกลมโปร่ง
• กราฟลูกชิ้น (Small Road) : ทํานายผลโดยใช้สัญลักษณ์เป็นวงกลมทึบ
• กราฟลูกชิ้น (Small Road) : ทํานายผลโดยใช้สัญลักษณ์เป็นวงกลมทึบ

ผู้เล่นควรทำความเข้าใจกับประเภทและหน้าที่ของกราฟแต่ละชนิด เพื่อเลือกใช้อ่านกราฟได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับวัตถุประสงค์

วิธีอ่านกราฟหลัก (Main Graph)

กราฟหลัก เป็นกราฟที่แสดงผลการออกรางวัลในแต่ละรอบโดยละเอียด มีสองชนิดคือ กราฟภาพรวม (Big Road) และกราฟแบบจีน (Pearl Road)

สำหรับกราฟภาพรวม (Big Road) นั้น มีขั้นตอนการอ่านดังนี้

• สังเกตทิศทางการออกผลรางวัลจากซ้ายไปขวา บนลงล่าง
• หากมีฝั่งใดชนะติดต่อกัน จะบันทึกลงแนวตั้ง
• เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงผู้ชนะ จะเลื่อนไปทางขวาของกราฟ
• มองหาเค้าไพ่ เช่น แนวตัด เค้าไพ่มังกร ไพ่ปิงปอง เป็นต้น

สำหรับกราฟแบบจีน (Pearl Road) มีขั้นตอนการอ่านดังนี้

• สังเกตทิศทางการออกผลรางวัลแนวตั้งจากบนลงล่าง
• ไม่ได้แยกแยะผู้ชนะอย่างชัดเจนเหมือน Big Road
• มองหาแนวตัด ซึ่งอาจเกิดขึ้นเป็นรูปแบบซ้ำ ๆ
• มองหาเค้าไพ่ปิงปอง และโกลเด้นไลน์

โดยรวมแล้ว กราฟหลักช่วยให้มองเห็นแนวโน้มและเค้าไพ่ที่น่าสนใจ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการชนะการเดิมพันได้

วิธีอ่านกราฟทํานาย (Prediction Graph)

กราฟทํานาย เป็นกราฟที่คาดการณ์แนวโน้มผลการออกรางวัลล่วงหน้า ซึ่งมี 3 ประเภทย่อย ได้แก่ กราฟโดนัท กราฟลูกชิ้น และกราฟไม้ขีด

การอ่านกราฟทํานายมีขั้นตอนดังนี้

• ก่อนอื่น ต้องดูตารางสรุปผลย้อนหลัง เพื่อเปรียบเทียบกับการทํานายของกราฟ
• สังเกตสัญลักษณ์และตำแหน่งบนกราฟทํานาย ว่าทํานายฝั่งใดเป็นผู้ชนะ
• เปรียบเทียบกับข้อมูลจริงจากตารางสรุปผล ว่าตรงกันหรือไม่
• จดบันทึกอัตราความถูกต้องในการทํานายของแต่ละกราฟ
• เลือกใช้กราฟที่มีอัตราความถูกต้องสูงสุด

ข้อสำคัญ คือไม่ควรเชื่อการทํานายของกราฟ 100% ควรใช้ประกอบการตัดสินใจของตนเองด้วย

ข้อดีของการอ่านกราฟบาคาร่า

การอ่านกราฟบาคาร่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทำให้ได้รับข้อดีหลายประการ ดังนี้

• เพิ่มโอกาสในการชนะการเดิมพัน เนื่องจากสามารถวิเคราะห์แนวโน้มได้ดีขึ้น
• สามารถจําแนกโต๊ะบาคาร่าที่น่าเล่นหรือไม่น่าเล่นได้ง่าย
• ช่วยให้การวิเคราะห์เค้าไพ่ต่าง ๆ ทำได้รวดเร็วขึ้น
• สามารถนําความรู้ไปประยุกต์ใช้กับการเล่นเกมอื่น ๆ เช่น นิวนิว, ป๊อกเด้ง ได้ด้วย
• ช่วยให้เล่นได้อย่างมีชั้นเชิง รอบคอบ และเลือกเดิมพันได้อย่างแม่นยํา

สรุป

การอ่านกราฟบาคาร่าอย่างถูกวิธี ถือเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการเล่นบาคาร่า ทั้งมือใหม่และมือโปรควรศึกษาและทำความเข้าใจกับประเภท สัญลักษณ์ และวิธีการอ่านกราฟต่าง ๆ ให้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้สามารถคาดเดาผลการออกรางวัลและเพิ่มโอกาสในการชนะได้อย่างมีนัยสําคัญ

เล่นบาคาร่าได้เงินจริง เป็นเกมไพ่ยอดฮิตที่มีให้บริการอยู่ในคาสิโนทั่วโลก รวมถึงคาสิโนออนไลน์ต่าง ๆ ด้วย เป็นเกมที่ง่ายต่อการเรียนรู้และเล่น แต่ก็มียุทธวิธีมากมายที่ช่วยให้นักพนันสามารถเอาชนะเจ้ามือและทำกําไรได้อย่างสม่ำเสมอ

สำหรับผู้เล่นหลายคน บาคาร่าถือเป็นเกมที่สามารถสร้างรายได้เสริมได้จริง หากรู้จักวิธีการเล่นที่ถูกต้องและปฏิบัติตามอย่างสม่ำเสมอ บทความนี้จะพาคุณทำความรู้จักกับวิธีการเล่นบาคาร่าเพื่อสร้างรายได้จริง ตั้งแต่พื้นฐานกติกาการเล่น จนถึงเทคนิคและกลยุทธ์ต่าง ๆ ที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการชนะและสร้างกําไรได้อย่างต่อเนื่อง

เราจะพูดถึงหลักการพื้นฐานในการเล่น วิธีการอ่านเกมและวิเคราะห์แนวโน้ม รวมถึงกลยุทธ์ที่ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกําไร ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือมือเก๋า บทความนี้จะช่วยให้คุณสามารถนําความรู้ไปประยุกต์ใช้จริงในการเล่น พร้อมทั้งตัวอย่างแผนการเล่นเพื่อให้สามารถนําไปปฏิบัติตามได้ทันที

จุดมุ่งหมายสูงสุดคือ การช่วยให้นักพนันทุกคนสามารถพัฒนาฝีมือและทักษะในการเล่นบาคาร่าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อสร้างรายได้เสริมจากการเล่นไพ่ใบนี้ได้อย่างยั่งยืน หากศึกษาและทำความเข้าใจเนื้อหาทั้งหมดในบทความนี้แล้ว คุณจะก้าวสู่การเป็นนักพนันบาคาร่ามืออาชีพได้ไม่ยากเย็น

กฎกติกาและพื้นฐานในการ เล่นบาคาร่าได้เงินจริง

ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจกฎกติกาและพื้นฐานการเล่นบาคาร่ากันก่อนดีกว่า บาคาร่าเป็นเกมไพ่เปรียบเทียบที่นักพนันจะต้องทายว่า ในแต่ละมือนั้นฝ่ายใดจะได้แต้มสูงกว่ากันระหว่างฝ่ายผู้เล่น (Player) กับฝ่ายเจ้ามือ (Banker) ในแต่ละรอบ เจ้ามือจะแจกไพ่ให้ฝ่ายละ 2 ใบ โดยไพ่แต่ละใบจะมีค่าดังนี้

• ไพ่ A มีค่าเท่ากับ 1 แต้ม
• ไพ่ 2 ถึง 9 มีค่าเท่ากับตัวเลขที่แสดงอยู่บนไพ่
• ไพ่ 10 และ J, Q, K มีค่าเท่ากับ 0 แต้ม

ผู้เล่นจะนับค่าแต้มของไพ่ทั้ง 2 ใบ โดยตัวเลขหลักเศษจะถูกตัดทิ้ง ยกตัวอย่างเช่น ไพ่ 5 + 8 = 3 แต้ม (นับเฉพาะหลักหน่วย), ไพ่ A + 9 = 0 แต้ม หรือไพ่ A + A = 2 แต้ม เป็นต้น โดยฝ่ายที่ได้แต้มใกล้เคียง 9 มากที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะในรอบนั้น ในกรณีที่แต้มของทั้งสองฝ่ายเท่ากัน จะถือว่าเสมอกันและเจ้ามือเป็นฝ่ายชนะ

นอกจากนี้ ยังมีกฎเพิ่มเติมอีกดังนี้

• หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้แต้มรวมเป็น 8 หรือ 9 ในไพ่ 2 ใบแรก จะถือว่าชนะทันทีโดยไม่ต้องแจกไพ่ใบที่ 3 เพิ่ม (Natural Win)
• หากไพ่ของทั้งสองฝ่ายรวมกันมีแต้มมากกว่า 10 แต้ม ให้ลบ 10 ออกแล้วนับเฉพาะหลักหน่วยเหลือ เช่น 7 + 9 = 6 แต้ม
• ฝ่ายผู้เล่นสามารถขอไพ่เพิ่ม (Hit) ได้หากไพ่ 2 ใบแรกมีแต้มรวมน้อยกว่า 5 แต้ม
• ฝ่ายเจ้ามือจะต้องจั่วไพ่เพิ่ม (Hit) หากไพ่ 2 ใบแรกมีแต้มรวมน้อยกว่า 6 แต้ม และต้อง อยู่ (Stand) หากไพ่ 2 ใบแรกมีแต้มรวม 6 หรือ 7 แต้ม

นี่คือกฎพื้นฐานทั่วไปของบาคาร่าที่คุณควรทำความเข้าใจให้แม่นยําก่อนลงมือเล่น ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถอ่านเกมและวิเคราะห์โอกาสชนะได้ง่ายขึ้น

อย่างไรก็ตาม นอกจากการทำความเข้าใจกฎกติกาแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการฝึกฝนและหมั่นทบทวน เพื่อให้เกิดความชํานาญ คุณอาจเริ่มต้นจากการเล่นบาคาร่าในโหมดเล่นฟรี เพื่อทดสอบฝีมือโดยไม่ต้องเสี่ยงเงินจริง

นอกจากนี้ การเข้าใจอัตราต่อรองของการเดิมพันแต่ละประเภทก็เป็นสิ่งจําเป็น โดยทั่วไปแล้วอัตราต่อรองมีดังนี้

• การเดิมพันฝ่ายเจ้ามือชนะ จ่าย 1 ต่อ 95
• การเดิมพันฝ่ายผู้เล่นชนะ จ่าย 1 ต่อ 1
• การเดิมพันเสมอ จ่าย 1 ต่อ 8

ซึ่งหมายความว่า การเดิมพันในฝ่ายเจ้ามือนั้นมีโอกาสชนะเล็กน้อยกว่าฝ่ายผู้เล่น แต่ก็จะได้เงินน้อยกว่าเมื่อถูก ส่วนการเดิมพันเสมอนั้นมีโอกาสชนะน้อยมาก แต่จะได้เงินก้อนใหญ่

ดังนั้นเมื่อคุณเข้าใจกติกา ฝึกฝนจนชํานาญ และรู้อัตราต่อรองแล้ว คุณก็พร้อมที่จะก้าวไปสู่ขั้นตอนการเรียนรู้เทคนิคการเล่นเพื่อเอาชนะบาคาร่าและทำกําไรได้จริงแล้ว

เทคนิคการ เล่นบาคาร่าได้เงินจริง

เมื่อเข้าใจกฎกติกาและพื้นฐานของบาคาร่าแล้ว สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถเอาชนะเจ้ามือและทำกําไรได้คือ การรู้จักประยุกต์ใช้เทคนิคต่าง ๆ ในการเล่น ซึ่งต่อไปนี้เป็นเทคนิคที่มืออาชีพนิยมใช้ เพื่อเอาชนะเกมบาคาร่า

การนับไพ่ (Card Counting)

การนับไพ่เป็นเทคนิคที่ใช้ติดตามจำนวนไพ่ที่ออกมาแล้ว เพื่อประเมินโอกาสที่ไพ่ใบต่อไปจะเป็นไพ่ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เล่นหรือไม่ เช่น หากไพ่ตัวเลขต่ำ เช่น 2-6 ออกไปแล้วหลายใบ จะมีโอกาสสูงที่ไพ่ใบต่อไปจะเป็นไพ่หน้าสูง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้เล่น เทคนิคนี้ต้องอาศัยการจำและคํานวณเป็นอย่างดี ซึ่งต้องใช้ความชํานาญและฝึกฝนอย่างมาก

การบริหารเงินทุน

เทคนิคนี้เน้นการกำหนดวงเงินและจัดสรรเงินเดิมพันอย่างชาญฉลาด ไม่วางเดิมพันจำนวนมากเกินไปในครั้งเดียว วิธีหนึ่งคือการแบ่งเงินทุนออกเป็น 20-30 เท่า แล้ววางเดิมพันเพียง 1 เท่าต่อรอบ เมื่อแพ้ก็ลดเหลือ 1 เท่าเช่นเดิม เมื่อชนะก็เพิ่มเป็น 2 เท่า ทำให้สามารถควบคุมการเสี่ยงได้ดีขึ้น

รู้เวลาที่ควรหยุด

เมื่อชนะไปแล้วหลายรอบติดต่อกัน คุณอาจเริ่มประมาทและโลภมากเกินไป นี่คือเวลาที่ควรรู้จักหยุดและเก็บกําไรไว้บ้าง ไม่ควรเล่นต่อเนื่องจนหมดสติ ควรกำหนดเป้าหมายกําไรและขาดทุนไว้ชัดเจน และถอนตัวออกจากโต๊ะเมื่อถึงเป้าหมายแล้ว

เลือกโต๊ะเล่นอย่างชาญฉลาด

การเลือกโต๊ะที่มีโอกาสได้เปรียบสูงสุดก็เป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่สำคัญ เช่น เลือกโต๊ะที่มีผู้เล่นน้อยคน เพราะจะง่ายต่อการนับไพ่และคํานวณโอกาส หลีกเลี่ยงโต๊ะที่มีผู้เล่นใหม่จำนวนมาก เพราะอาจทำให้เสียสมาธิในการเล่นได้

สังเกตกิริยาท่าทางของดีลเลอร์

การสังเกตเจ้ามือว่ามีปฏิกิริยาแบบใดเมื่อไพ่เปิดแล้ว เช่น ยิ้ม หรือเม้มปาก เป็นต้น จะช่วยให้คุณทายผลลัพธ์ได้ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ต้องใช้ประสบการณ์และฝึกสังเกตอย่างต่อเนื่อง เพราะเจ้ามือแต่ละคนอาจมีกิริยาท่าทางไม่เหมือนกัน

อย่าเพิ่งวางเดิมพันในตาที่ 1

ผู้เล่นหลายคนมักตื่นเต้นและวางเดิมพันทันทีในตาที่ 1 แต่นี่อาจเป็นข้อผิดพลาด ดีกว่าควรสังเกตการออกไพ่ในตาที่ 1 ก่อน แล้วค่อยวางเดิมพันในตาถัดไป เพื่อให้มีโอกาสวิเคราะห์แนวโน้มของเกมได้มากขึ้น

เล่นพนันเสมอบ้างเป็นครั้งคราว

แม้ว่าโอกาสจะต่ำ แต่ถ้าไพ่ออกสลับกันระหว่างฝ่ายเจ้ามือและผู้เล่น ก็มีโอกาสเกิดเสมอได้บ้าง คุณอาจลองวางเดิมพันเสมอประปราย เพื่อลองเสี่ยงโชคบ้าง

ศึกษากลยุทธ์พื้นฐานสำหรับมือใหม่ (Basic Strategy)

กลยุทธ์พื้นฐานเป็นสิ่งที่บอกว่าควรจะทำอย่างไรในแต่ละสถานการณ์ เช่น ถ้าเสียอาจเพิ่มทุนเพื่อเพิ่มโอกาสเอาทุนคืน หรือชนะอาจใช้กำไรทบเข้าไปเพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไรแบบทวีคูณ

นี่คือตัวอย่างเทคนิคที่นักพนันมืออาชีพมักใช้ เพื่อเอาชนะบาคาร่า หากสามารถนําไปปฏิบัติได้อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการชนะและทำกําไรให้สูงขึ้นได้เป็นอย่างดี

กลยุทธ์เดิมพันบาคาร่าแบบมืออาชีพ

นอกจากเทคนิคการเล่นแล้ว กลยุทธ์ในการวางเดิมพันก็เป็นอีกสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณได้เปรียบเจ้ามือและทำกําไรได้ง่ายขึ้น ต่อไปนี้เป็นกลยุทธ์ที่นักพนันมืออาชีพนิยมใช้

กลยุทธ์ 1-3-2-4

เป็นการเดิมพันแบบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเริ่มต้นที่ 1 หน่วยในตาที่ 1 ถ้าชนะก็เพิ่มเป็น 3 หน่วยในตาที่ 2 ถ้าชนะอีกก็เพิ่มเป็น 2 หน่วยในตาที่ 3 แล้วเพิ่มเป็น 4 หน่วยในตาที่ 4 ถ้าแพ้ตามลำดับก็กลับมาเริ่มที่ 1 หน่วยใหม่

กลยุทธ์ Paroli

เพิ่มเดิมพันคูณ 2 เมื่อชนะ เช่น เริ่มที่ 1 หน่วย ถ้าชนะก็เพิ่มเป็น 2 หน่วย ชนะอีกก็เพิ่มเป็น 4 หน่วย แล้วกลับมาเริ่มที่ 1 หน่วยใหม่เมื่อแพ้

กลยุทธ์ Martingale

จะเพิ่มจำนวนเดิมพันคูณ 2 เมื่อแพ้ เพื่อชดเชยผลขาดทุนให้ได้ที่ต้นทุนเดิมกลับคืนมา เช่น แพ้ 10 บาท ต่อไปเดิมพัน 20 บาท แพ้อีกเพิ่มเป็น 40 บาท ฯลฯ

กลยุทธ์ Labouchere

กำหนดช่วงจำนวนเงินเดิมพัน เช่น 2-6 หมายถึงเดิมพันขั้นต่ำ 2 สูงสุด 6 หน่วย โดยจะเพิ่ม-ลด จำนวนภายในช่วงตามผลการเดิมพันในแต่ละตา

สรุปแล้วกลยุทธ์ต่าง ๆ ล้วนช่วยบริหารเงินทุนและจัดการเดิมพันได้อย่างชาญฉลาด ทำให้ได้เปรียบเจ้ามือและเพิ่มโอกาสชนะพนันได้สูงขึ้น

ข้อควรระวังในการ เล่นบาคาร่าได้เงินจริง

แม้ว่าจะมีกลยุทธ์และเทคนิคช่วยเพิ่มโอกาสชนะ แต่การเล่นบาคาร่าก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ดี ดังนั้นผู้เล่นควรระมัดระวังข้อนี้

• ควบคุมอารมณ์ ไม่เล่นเมื่อหงุดหงิดหรือเสียใจ เพราะจะทำให้การตัดสินใจผิดพลาดได้
• กำหนดวงเงินเสี่ยงไว้ก่อนแน่นอน อย่าเล่นด้วยเงินทั้งหมดที่มี
• เลิกเล่นทันทีที่ถึงขีดจํากัด ไม่ตามใจตัวเองว่าจะเล่นต่อ
• อย่ายืมเงินเพื่อเล่นพนัน จะทำให้เกิดปัญหาหนี้สินได้
• แบ่งเวลาให้ดุลยภาพ อย่าหมกมุ่นอยู่กับการพนันตลอดเวลา

แนวคิดของกลยุทธ์ 1324

จากสถิติแล้วกลยุทธ์นี้สามารถทำงานได้ดีกับเกมพนันที่มีลักษณะการวางเดิมพันที่มีโอกาสชนะ 50/50 อย่าง บาคาร่า ที่ต้องลุ้นว่าฝั่งเจ้ามือหรือผู้เล่นจะเป็นฝ่ายชนะ หรือแม้แต่ไฮโล, รูเล็ต ที่มีการแทงแบบคู่-คี่, สูง-ต่ำ, แดง-ดำ ก็สามารถใช้สูตรนี้ได้เช่นกัน เพราะเป็นเกมที่มีโอกาสแพ้/ชนะกันครึ่งต่อครึ่ง แต่จะมีกฎคือ ห้ามแทงฝั่งเสมอหรือฝั่งที่มีอัตราจ่ายมากกว่า 1 เท่า เพราะยิ่งอัตราจ่ายสูงยิ่งมีความเสี่ยงสูงที่เราจะเสียเดิมพันไปด้วย

วิธีใช้กลยุทธ์ 1324

สิ่งที่ต้องทำอย่างแรกคือแบ่งทุนที่มีอยู่ออกเป็นหน่วยละเท่า ๆ กัน เวลาใช้สูตรนี้เราจะเล่นด้วยกัน 4 ตา หากชนะเดิมพันให้เล่นตาต่อไป แต่ถ้าแพ้ก็ให้กลับมาเริ่มตาที่ 1 ใหม่ ในแต่ละตาจะมีเงื่อนไขการลงเงินดังนี้

ตาที่ 1 วางเดิมพันไป 1 หน่วย

ตาที่ 2 วางเดิมพันไป 3 หน่วย

ตาที่ 3 วางเดิมพันไป 2 หน่วย

ตาที่ 4 วางเดิมพันไป 4 หน่วย

ยกตัวอย่างเช่น

ตาที่ 1 วางเดิมพัน 10 บาท

• ถ้าชนะ จะได้กำไร 10 บาท
• ถ้าแพ้ จะเสียเดิมพัน 10 บาท

ตาที่ 2 วางเดิมพัน 30 บาท (ทุน 20 บาท กำไรจากตาที่ 1 10 บาท)

• ถ้าชนะ จะได้กำไร 30 บาท รวมกำไรสะสม 40 บาท
• ถ้าแพ้ จะเสียเดิมพัน 30 บาท และไม่เหลือกำไร

ตาที่ 3 ใช้กำไรวางเดิมพัน 20 บาท

• ถ้าชนะ จะได้กำไร 20 บาท รวมกำไรสะสม 60 บาท
• ถ้าแพ้ จะเสียเดิมพัน 20 บาท เหลือกำไร 20 บาท

ตาที่ 4 ใช้กำไรวางเดิมพัน 40 บาท

• ถ้าชนะ จะได้กำไร 40 บาท รวมกำไรสะสม 100 บาท
• ถ้าแพ้ จะเสียเดิมพัน 40 บาท เหลือกำไร 20 บาท

ระดับความเสี่ยง

จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่ามีความเสี่ยงต่ำมาก ๆ มีเพียงแค่ตาที่ 1 กับ 2 เท่านั้นที่เสี่ยงจะเสียเดิมพัน สิ่งที่ต้องทำก็คือหาจังหวะเข้าเล่นให้ได้เพื่อที่จะสร้างโอกาสชนะ 2 ตาติดต่อกันให้ได้ ซึ่งจังหวะนี้เราจะมีโอกาสชนะมาถึง 25% กันเลยทีเดียว

หลังจากผ่าน 2 ตาแรก ไม่ว่าจะแพ้ตาที่ 3 หรือ 4 ก็ยังคงเหลือกำไรอยู่ 2 หน่วยเสมอ เพียงแต่การเล่น 2 ตาสุดท้ายก็เพื่อหาโอกาสทำกำไรแบบทวีคูณ หากชนะในตาสุดท้ายก็จะได้รับกำไรมากถึง 10 หน่วยกันเลยทีเดียว

เห็นกำไรงามในช่วงท้ายกันอย่างนี้ก็อย่าเพิ่งรีบดีใจกันไป เพราะว่าในแต่ละตาโอกาสชนะของเราจะหายไปมากถึง 50% ของก่อนหน้านี้ อย่างตาที่ 1 เริ่มต้นที่ 50% ตาที่ 4 ก็จะเหลือแค่ 6.25% ดังนั้นต้องตัดสินใจให้ดีว่าพร้อมที่จะรับความเสี่ยงหรือไม่ บริหารจัดการเงินทุนให้ดีว่าจะแบ่งไม้ละกี่บาทเพื่อให้จบเกมไวและได้กำไรคุ้มค่าที่สุด

จังหวะไหนที่ควรใช้กลยุทธ์ 1324

การใช้กลยุทธ์นี้ไม่ใช่ว่าเข้าไปเล่นแล้วจะใช้สูตรกันได้เลย โดยเฉพาสูตรนี้อย่างน้อยก็ควรจะให้มีจังหวะที่ชนะติดกันสักสองสามครั้งก็ยังดี หรือชนะมาเยอะ นาน ๆ แพ้ที สูตรจะให้ผลลัพธ์ที่ดีมาก ๆ ช่วยทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าหากแพ้ ชนะ สลับกันไปแบบนี้โดยที่จำนวนแพ้มากกว่า หรือว่าแพ้ติด ๆ กัน การวางเดิมพันแบบไม่ใช้สูตรจะมีความเสี่ยงน้อยกว่า

จากทั้งหมดที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่ากลยุทธ์ 1324 นั้นมีความเสี่ยงที่ต่ำมาก เหมาะที่จะใช้เล่นกับเกมพนันแทบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นบาคาร่า, เสือมังกร, ไฮโล, รูเล็ต แต่มีข้อจำกัดตรงที่ต้องวางเดิมพันในตำแหน่งที่มีโอกาสแพ้ชนะครึ่งต่อครึ่งหรือที่มีอัตราจ่ายเพียง 1 เท่าของทุน ถึงจะให้ผลลัพธ์ดีที่สุด อย่างไรก็ตามการทำกำไรด้วยกลยุทธ์นี้จำเป็นต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน เล่นตามแผน อย่าลืมว่ายิ่งเล่นนานค่า House Edge ก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพียงเท่านี้ก็สามารถทำกำไรกันได้แล้ว

เมื่อพูดถึงสูตรบาคาร่าคนส่วนมากมักจะคิดว่าเกี่ยวกับการลงเงินทุน ที่จริงแล้วสูตรบาคาร่ามีอยู่ 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ก็คือ สูตรเล่นบาคาร่า กับสูตรเดินเงินบาคาร่า ซึ่งแต่และสูตรก็จะมีความแตกต่างกันไปดังนี้

สูตรเล่นบาคาร่า คืออะไร

สูตรเล่นบาคาร่า เป็นสูตรที่เน้นทำกำไรโดยอาศัยจังหวะในการวางเดิมพัน ไม่มีการไปคิดคำนวณว่าตาไหนจะต้องวางเงินกี่บาท โดยทั่วไปแล้วสูตรเล่นบาคาร่าที่นิยมใช้กันจะมีอยู่ 2 แบบใหญ่ ๆ คือ

สูตร 4 in 1

หรือที่เรียกกันว่าสูตรเหมารวม สูตรนี้จะช่วยให้ทำกำไรได้ในระยะยาว วิธีนี้จะช่วยให้นั่งเล่นได้นานเท่าที่ต้องการโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่า House Edge หลักการคือเราจะดูจากเค้าไพ่ที่เป็นสถิติย้อนหลังในการออกไพ่ว่าอยู่ในรูปแบบใบ โดยเค้าไพ่หลัก ๆ ที่ใช้จะมีอยู่ 4 แบบ คือ

• เค้าออกติด เราจะดูที่การออกไพ่ 2 ครั้งล่าสุดว่าเป็นแบบไหน ถ้าออกฝั่งผู้เล่น 2 รอบติดกัน หรือเจ้ามือ 2 ตาซ้อน อันนี้เราเรียกว่าไพ่ติด ถ้าเจอไพ่ออกมาในรูปแบบนี้ให้วางเดิมพันฝั่งเดียวกับสองครั้งล่าสุดนี้ต่อไป สมมติว่ามันออกฝั่งเจ้ามือมาแล้วสองครั้ง ครั้งต่อไปเราแทงเจ้ามือตามไปได้เลย
• เค้าออกสลับ ให้ดูการออกไพ่ 3 ครั้งล่าสุด ถ้าออกสลับกันเช่น ผู้เล่น เจ้ามือ ผู้เล่น หรือ เจ้ามือ ผู้เล่น เจ้ามือ ถ้าเป็นแบบนี้ถือว่าเป็นเค้าไพ่สลับ เวลาวางเดิมพันให้แทงฝั่งตรงข้ามกับฝั่งที่ออกครั้งสุดท้าย สมมติว่าออก เจ้ามือ ผู้เล่น เจ้ามือ ตาต่อไปเราแทง ผู้เล่น รอไว้ได้เลย
• เค้าสองสลับหนึ่ง วิธีการดูคือให้ดูที่เค้าไพ่ 3 ตาล่าสุด ถ้าไพ่ออกมาเป็น เจ้ามือ เจ้ามือ ผู้เล่น หรือ ผู้เล่น ผู้เล่น เจ้ามือ ลักษณะนี้เราเรียกว่า สองสลับหนึ่ง ตาต่อไปให้แทงฝั่งตรงข้ามกับฝั่งที่ชนะในตาล่าสุด สมมติว่าออก เจ้ามือ เจ้ามือ ผู้เล่น ครั้งต่อไปเราจะแทง เจ้ามือ
• เค้าสลับสอง ลักษณะจะคล้ายกับสลับหนึ่ง ต่างกันตรงที่มันจะออกฝั่งเดียวกันสองตาติดแล้วค่อยสลับไปออกอีกฝั่งสองตาติด เช่น เจ้ามือ เจ้ามือ ผู้เล่น ผู้เล่น ถ้าเราเจอไพ่ออกรูปแบบนี้รอบต่อไปให้แทง เจ้ามือ

สูตรเป่าจินจง

เป็นอีกสูตรบาคาร่าที่ถูกคิดค้นโดยนักพนันชาวจีน โดยหลักการแล้วสูตรนี้จะดูแค่ว่า

• ฝั่งไหนก็ตามถ้าชนะด้วยไพ่ 2 ใบ ครั้งต่อไปให้วางเดิมพันฝั่งผู้เล่นเท่านั้น
• ฝั่งไหนชนะด้วยไพ่ 3 ใบ ครั้งต่อไปให้แทงฝั่งเจ้ามือเท่านั้น

สูตรเดินเงิน คืออะไร

สูตรเดินเงินจะมีความแตกต่างจากสูตรเล่นบาคาร่าตรงที่สูตรนี้จะเป็นการโฟกัสไปที่การวางเงินเดิมพันเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการรักษาเงินทุน, การทำกำไร รวมถึงการตามเงินทุนที่เสียไปกลับคืนมา ที่นิยมใช้กันจะมีอยู่ 3 สูตรหลัก ๆ คือ

สูตรเดินเงินคงที่

เป็นสูตรที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่มือใหม่ เพียงแค่เอาเงินทุนที่มีทั้งหมดมาเฉลี่ยออกเป็นกองละเท่า ๆ กัน จะแพ้หรือชนะก็จะวางเดิมพันเท่าเดิม จึงเหมาะกับการใช้คู่กับสูตร 4 in 1 สมมติว่าเรามีเงินอยู่ 1,000 บาท เราว่าจะแทงรอบละ 100 เท่ากับว่าด้วยเงินที่มีอยู่เราจะสามารถเล่นได้ทั้งหมด 10 ครั้ง ถ้าดวงดีฝีมือได้ชนะรวดเดียว 10 ตาก็จะได้กำไรกลับมา 10 หน่วย วิธีนี้จึงค่อนข้างเหมาะกับคนงบน้อยอย่างยิ่ง

สูตร Martingale

หรือที่เรียกว่าสูตรแทงทบ สูตรนี้เวลาแพ้รอบต่อไปเราจะวางเดิมพันเป็นสองเท่าของรอบล่าสุด จาก 1 เป็น 2, 4, 8 และ 16 แต่เราจะจำกัดระยะแทงทบไว้ที่ 5 ไม้ หรือก็คือแทงทบไปไม่เกิน 5 ครั้ง ถ้าหมดไม้แล้วยังไม่ได้คืนให้หยุดก่อน หรือจะกลับไปเริ่มหนึ่งใหม่ก็ได้ แต่ถ้าได้ก่อนจะถึงไม้ 5 ก็ให้หยุดทันที

อย่างไรก็ตามสูตรนี้ถ้าเราสามารถชนะได้ใน 5 ไม้ เงินที่เราเสียไปจะได้กลับคืนมาทั้งหมดบวกกับกำไรอีก 1 หน่วยเป็นของแถม แต่มันก็มีข้อควรระวังคือถ้าเราต้องการใช้สูตรนี้จำเป็นต้องมีทุนอยู่ 100 หน่วย คือถ้าเล่นรอบละ 100 บาท ก็จำเป็นต้องมีทุนสัก 10,000 แต่ถ้ามีไม่ถึงอย่างน้อยขอให้มีสัก 50 หน่วยหรือ 5,000 บาทก็ยังดี เพื่อที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการใช้สูตรนั่นเอง

สูตร Super Martingale

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสูตรโกงตายที่มีความคล้ายกับ Martingale ตรงที่มีระยะ 5 ไม้เหมือนกัน แต่ทุนที่จะใช้มีมากกว่าเป็นแบบทบ+1 คือ 1 เป็น 3, 7, 15 และ 31ถ้าหากเราสามารถชนะได้ในไม้ที่ 5 นอกจากทุนที่เสียไปจะได้กลับคืนมาแล้วยังจะได้กำไรคืนมาอีก 5 ไม้ แต่นั่นก็แลกมาด้วยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

บาคาร่าเล่นยังไง

ถึงแม้ว่าบาคาร่าแต่ละแบรนด์แต่ละโต๊ะจะมีความแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย แต่ก็ยังคงมีกติกาพื้นฐานที่เหมือนกันอยู่ ดังนั้นใครที่ไม่เคยเล่นก็ไม่ต้องกังวลว่าจะทำไม่ได้ เพราะวิธีเล่นนั้นทำได้ง่าย ๆ ใน 4 ขั้นตอน เพียงแค่

1. วางชิปเดิมพันเพื่อทายว่าฝั่งไหนจะชนะระหว่างเจ้ามือกับผู้เล่น หรือจะทายผลอย่างอื่นก็ได้ ซึ่งจะมีเวลาให้ประมาณ 20-25 วินาที
2. รอดีลเลอร์แจกไพ่ให้ครบทั้งสองฝั่งแล้วเปิดไพ่เพื่อวัดแต้ม
3. หากฝั่งไหนได้แต้ม 8 – 9 แต้ม ก็จะถือว่าชนะทันที หากแต้มเท่ากันถือว่าเสมอ
4. หากมีฝั่งไหนได้แต้มน้อยกว่า 5 แต้ม จะมีการจั่วไพ่ใบที่สาม ซึ่งกติกานี้ดีลเลอร์จะเป็นคนดูแลให้ เพราะมีความซับซ้อนมาก บางครั้งอาจจั่วเพิ่มแค่ฝั่งเดียว บางครั้งอาจจั่วให้ทั้งสองฝั่ง ทั้งนี้ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนโกง

บาคาร่าจ่ายยังไง

พื้นฐานการจะทำกำไรกับบาคาร่าก่อนอื่นเราต้องเข้าใจว่าวางเดิมพันตรงไหนถึงจะได้กำไรคุ้มความเสี่ยง ซึ่งในแต่ละตำแหน่งก็จะให้ผลตอบแทนที่แตกต่างกันไปดังนี้

1. แทงฝั่งผู้เล่น ถ้าชนะจะได้รับอัตราจ่าย 1 : 1 ไม่รวมทุน
2. แทงฝั่งเจ้ามือ ถ้าชนะจะได้รับอัตราจ่าย 1 : 0.95 ไม่รวมทุน
3. แทงเสมอ ถ้าผลออกมาเสมอ จะได้รับอัตราจ่าย 1 : 8 ไม่รวมทุน
4. แทงไพ่คู่ผู้เล่น ถ้าไพ่สองใบแรกฝั่งผู้เล่นออกมาแต้มเหมือนกัน จะได้รับอัตราจ่าย 1 : 11 ไม่รวมทุน
5. แทงไพ่คู่เจ้ามือ ถ้าไพ่สองใบแรกฝั่งเจ้ามือออกมาแต้มเหมือนกัน จะได้รับอัตราจ่าย 1 : 11 ไม่รวมทุน
6. แทงไพ่คู่สองฝั่ง ถ้าไพ่สองใบแรกของทั้งสองฝั่งออกไพ่คู่ จะได้รับอัตราจ่าย 1 : 25 ไม่รวมทุน
7. แทงไพ่คู่แบบไม่เลือกฝั่ง หากฝั่งใดฝั่งหนึ่งได้ไพ่คู่ จะได้รับอัตราจ่าย 1 : 5 ไม่รวมทุน
8. แทงต่ำ เป็นการทายว่าทั้งสองฝั่งจะไม่ได้จั่วไพ่ใบที่ 3 หากจบด้วยไพ่สองใบ จะได้รับอัตราจ่าย 1 : 5
9. แทงสูง เป็นการทายว่าจะจบเกมด้วยการจั่วไพ่ใบที่ 3 จะได้รับอัตราจ่าย 1 : 54 ไม่รวมทุน

5 เคล็ดลับบาคาร่า ที่จะช่วยให้ไม่กำไรทิพย์

ปัญหาที่ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมือเก่าต่างก็ต้องได้เจอกันคงไม่พ้นเรื่องได้แล้วเสียคืนให้กับคาสิโน เพราะตามหลักการแล้วยิ่งเราเล่นนานมากแค่ไหน ต่อให้ชนะและได้เงินรางวัลมากเพียงใด ทางฝั่งคาสิโนเองก็จะได้เปรียบเรามากขึ้นเรื่อย ๆ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือในระยะยาวแล้วไม่มีใครเอาชนะคาสิโนได้แน่นอน จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคาสิโนถึงไม่เคยเจ๊ง แต่ถ้าไม่อยากกำไรทิพย์ล่ะก็ เคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้มีกำไรได้แน่นอน

เคล็ดลับที่ 1 อย่าจริงจังกับเกมจนเกินไป

การมีสมาธิกับเกมเป็นเรื่องดีก็จริง แต่การที่เราจริงจังกับมันมากเกินไปก็จะทำให้เกิดผลเสียเช่นกัน โดยเฉพาะความเครียดสะสมที่จะทำให้เราตัดสินใจแบบไม่สมเหตุสมผล ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือควรสังเกตตัวเองด้วยว่ารู้สึกตึงเครียดหรือเหนื่อยล้าไหม ถ้ามีก็หยุดก่อน อย่าไปสนใจว่ากำลังเล่นได้หรือเสีย ไม่ว่าอย่างไรหากฝืนเล่นต่อไปก็ต้องเสียให้คาสิโนแน่นอน

เคล็ดลับที่ 2 ให้เวลาเล่นที่จำกัด

หลายคนพลาดเพราะคิดว่าเล่นบาคาร่าเพื่อผ่อนคลาย ไม่ก็เล่นตอนที่ว่าง แต่รู้หรือไม่ว่า สิ่งที่นักเดิมพันมืออาชีพมีเหมือนกันก็คือให้เวลาเล่นที่จำกัดไว้อย่างชัดเจน พวกเขาจะรู้ว่าในแต่ละวันจะเล่นกี่ชั่วโมง เพื่อไม่ให้ร่างกายเกิดความเครียดความเหนื่อยล้าจนทำให้การคิดและตัดสินใจผิดพลาด ปกติแล้วมักจะเล่นกันไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อครั้งถือว่ากำลังดี นอกจากนี้ยังสร้างวินัยที่ดีให้กับตัวเองด้วย

เคล็ดลับที่ 3 ใช้สูตรช่วยทำกำไรเสมอ

สำหรับนักพนันมือฉกาจแล้ว การพนันไม่ใช่เรื่องของดวง แต่เป็นการฉกฉวยโอกาสทำกำไรเมื่อจังหวะมาถึง ดังนั้นพวกเขาจะมีสูตรมากมายไว้เป็นเครื่องมือสำคัญในการทำกำไรระยะสั้น ไม่ว่าจะเป็นสูตรช่วยเล่นหรือสูตรเดินเงิน เพราะพวกเขาต่างรู้ดีว่าในระยะยาวแล้วไม่มีใครเอาชนะคาสิโนได้ และการเล่นโดยไม่ใช่สูตรก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดนักแม้จะความเสี่ยงต่ำแต่มันก็ยากที่จะทำกำไร

เคล็ดลับที่ 4 มีแผนการเงินที่ชัดเจน

ช่วงแรก ๆ ที่หัดเล่นบาคาร่าเราอาจมองว่านี่คือการพนัน แต่เมื่อมีประสบการณ์มากขึ้นจะรู้ว่านี่คือการลงทุนอีกรูปแบบหนึ่งที่มีความเสี่ยงไม่แพ้กับการทำธุรกิจหรือการซื้อขายหุ้น การมีแผนการเงินที่ชัดเจนจะช่วยให้มีแนวทางการเล่นอย่างถูกต้อง เช่น มีเงินทุนอยู่ 10,000 บาท ต้องการกำไร 3,000 บาท ในการเล่นแต่ละรอบ และยอมขาดทุนได้แค่รอบละ 1,000 บาท ดังนั้นไม่ว่าจะเล่นได้หรือเสียหากว่ามันตรงกับเงื่อนไขในแผนที่วางไว้ก็ต้องหยุดทันที หากได้กำไรก็จะช่วยให้เราไม่กำไรทิพย์ แต่ถ้าเสียอย่างน้อยมันก็ช่วยปกป้องเงินทุนเอาไว้ให้มีใช้เล่นรอบต่อไป

เคล็ดลับที่ 5 ไม่ใช้อารมณ์ในการเล่น

ทุกการตัดสินใจย่อมมีเหตุและผลเสมอ นี่คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ได้กำไรอย่างแท้จริง บรรดาเซียนพนันต่างเห็นตรงกันว่าสาเหตุที่ทำให้เล่นเสียก็เพราะว่าใช้อารมณ์เล่น เช่น พอเล่นได้เงินแล้วก็รู้สึกว่าดวงกำลังมาเล่นจนเลยเป้าที่ตั้งไว้ สุดท้ายก็ต้องเสียคืนให้คาสิโน หรือหากเล่นเสียก็คิดจะเอาคืน ยิ่งแทงทบก็ยิ่งทุนหาย สุดท้ายชนเพดานทบไม่ได้อีก ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือเล่นไปโดยไม่ต้องใส่อารมณ์ดีที่สุด

มาถึงตรงนี้คงเห็นกันแล้วว่าการทำกำไรจากบาคาร่าไม่ได้มีอะไรยุ่งยากเลย ขอเพียงแค่เข้าใจพื้นฐานการวางเดิมพันว่าตรงไหนได้คุ้มเสี่ยง นอกจากนี้ก็ต้องมีเคล็ดลับติดไม้ติดมือเอาไว้ด้วย อย่างน้อยระหว่างที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเวลาล้มจะได้เจ็บน้อยกว่าใครที่เล่นแบบเอาแต่ใจอย่างเดียว หากใครผ่านจุดนี้ไปได้บอกเลยว่าการจะเล่นบาคาร่าเป็นอาชีพเสริมนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย

อันที่จริงแล้วบาคาร่าเป็นเกมพนันที่มีสูตรการเล่นและสูตรเดินเงินเยอะมาก ๆ เพื่อที่จะเอามาช่วยเพิ่มโอกาสเอาชนะและทำกำไรให้ได้มากขึ้น หลัก ๆ สูตรบาคาร่า ที่นิยมใช้ก็จะมี สูตรบาคาร่าเป่าจินจง, สูตรบาคาร่าคู่คี่ และสูตรบาคาร่าแพ็คเกจรวม 4 สูตร ซึ่งสูตรเหล่านี้จำเป็นต้องใช้ร่วมกับสูตรเดินเงินด้วยเพื่อจะได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ส่วนใหญ่ก็จะใช้สูตรเดินเงินมาร์ติงเกล กับสูตรเดินเงินฟิโบนัชชี เราไปดูกันดีกว่าครับว่าแต่ละสูตรมันเป็นยังไง

สูตรเป่าจินจง

หากคุณเป็นคนที่อ่านเค้าไพ่ไม่เก่ง จับทางไพ่ไม่ได้ สูตรนี้สามารถช่วยได้แน่ ๆ แค่ดูไพ่ที่ถูกเปิดขึ้นของแต่ละฝั่งเท่านั้น เงื่อนไขการใช้สูตรก็มีแค่ 2 ข้อ คือ

• ถ้าฝั่งใดฝั่งหนึ่งชนะด้วยไพ่ 2 ใบ ตาต่อไปให้วางเดิมพันฝั่งผู้เล่นหรือ Player โดยไม่ต้องไปสนใจว่าจะชนะกันด้วยกี่แต้ม หรือว่าชนะด้วยไพ่ดอกอะไร สีอะไร แต้มห่างกันแค่ไหน จำไว้แค่ว่าถ้าชนะด้วยไพ่ 2 ใบให้แทงผู้เล่นก็พอ
• ถ้าฝั่งใดฝั่งหนึ่งชนะด้วยไพ่ 3 ใบ ตาต่อไปให้วางเดิมพันฝั่งเจ้ามือหรือ Banker เช่นเดิมเราไม่ต้องไปกังวลว่าแต้มที่ชนะกันนั้นจะห่างกันมากน้อยแค่ไหน ชนะด้วยแต้มคู่หรือคี่ ชนะด้วยไพ่คู่ไหม เอาง่าย ๆ ถ้าชนะด้วยไพ่ 3 ใบ ตาต่อไปแทงเจ้ามือเลย

อย่างไรก็ตามสูตรนี้ก็มีความเคลื่อนได้เหมือนกัน การใช้สูตรเดินเงินเข้าช่วยจะทำให้สูตรบาคาร่านี้ได้ผลดียิ่งขึ้น

สูตรคู่-คี่

แม้ว่าจะต้องดูเค้าไพ่แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป เพราะเราดูแค่ 4 ตาสุดท้ายเท่านั้นว่าออกเป็นคู่ หรือคี่ สำหรับวิธีดูเค้าไพ่มีดังนี้

• เค้าไพ่คู่ ให้จับคู่สีว่าใน 4 ตาสุดท้ายมันได้คู่กันหรือไม่ ถ้าออก แดง-แดง-น้ำเงิน-น้ำเงิน แบบนี้เรียกว่าไพ่คู่ ตาต่อไปให้แทงแดง เพื่อให้เป็นเค้าไพ่คู่เหมือนเดิมคือ แดง-น้ำเงิน-น้ำเงิน-แดง หากนึกภาพไม่ออกให้ดูรูปต่อไปนี้ นี่คือเค้าไพ่คู่ที่กำลังพูดถึง
• เค้าไพ่คี่ ให้จับคู่สีจากการออกไพ่ใน 4 ตาสุดท้ายเหมือนเดิมว่ามีเศษหรือไม่ หากมีเศษหรือไม่ลงตัวถือว่าเป็นไพ่คี่ เช่น แดง-แดง-แดง-น้ำเงิน อันนี้เป็นเค้าไพ่คี่ ตาต่อไปแทง แดง เพื่อให้เป็นเค้าไพ่คี่เหมือนเดิมก็จะได้ แดง-แดง-น้ำเงิน-แดง เป็นต้น ตามรูปข้างล่าง

ปกติแล้วการออกเค้าไพ่คู่-คี่ มักจะออกติดกันประมาณ 5-6 ตา ถึงจะเปลี่ยน ดังนั้นหากชนะหรือว่าได้กำไรพอควรแล้วก็ให้หยุดเล่น ไม่ก็เปลี่ยนห้องจะดีที่สุด แน่นอนว่าการใช้สูตรเดินเงินเข้าช่วยจะทำให้การทำกำไรในแต่ละห้องเพิ่มขึ้นเช่นกัน

สูตรแพ็ค 4

สูตรนี้เป็นการดูเค้าไพ่เป็นหลัก ซึ่งจะมีทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน แต่ละแบบก็จะมีวิธีแทงที่แตกต่างกันไปดังนี้

• เค้าไพ่แบบออกติด ให้ดูการออกไพ่ 2 ตาสุดท้ายว่าออกเป็นสีเดียวกันหรือไม่ ถ้าเป็นสีเดียวกันตาต่อไปให้แทงสีนั้นได้เลย
• เค้าไพ่แบบออกสลับ ให้ดูการออกไพ่ 3 ตาสุดท้ายว่าสลับกันหรือไม่ ถ้าออกสลับกัน ตาต่อไปให้แทงฝั่งตรงข้ามของตาสุดท้าย
• เค้าไพ่แบบติดสองสลับหนึ่ง หรือเค้าไพ่ 2-1 ให้ดูการออกไพ่ 3 ตาสุดท้าย ถ้าออกสีเดียวกัน 2 ตา และตาสุดท้ายเป็นอีกสี ให้แทงฝั่งตรงข้ามของตาสุดท้าย
• เค้าไพ่แบบ 2-2-2 ให้ดูการออกไพ่ 4 ครั้งสุดท้าย ถ้าออกสีเดียวกัน 2 ครั้ง และสลับมาออกอีกสี 2 ตาติด ตาต่อไปให้แทงฝั่งตรงข้ามกับสองตาสุดท้ายได้เลย

การใช้ สูตรบาคาร่า แพ็ค 4 จะต้องคอยอ่านเค้าไพ่อยู่ตลอดเพราะสูตรสามารถเปลี่ยนได้ตลอดเวลาตามเค้าไพ่ ถือว่าเป็นสูตรที่มีความยืดหยุ่นมากที่สุด และเหมือนเดิมหากเล่นได้กำไรสัก 10-30% ของทุนก็ควรพอ ไม่ก็เปลี่ยนห้องจะดีที่สุด

สรุปก็คือการที่จะเอาชนะคาสิโนหรือว่าทำกำไรจากการเล่นบาคาร่าให้ได้มาก ๆ นั้น ควรเลือกสูตรบาคาร่าและสูตรเดินเงินที่คิดว่าเราเข้าใจมันมากที่สุดจะดีกว่า เพราะสูตรที่ดีที่สุดคือสูตรที่เราเข้าใจที่สุด ตรงกันข้ามหากไปเลือกสูตรที่เขาอวยกันว่าดีที่สุดแต่เราไม่เข้าใจ มันจะกลายเป็นสูตรที่แย่จนทำให้เราหมดตัวได้เหมือนกัน

สูตรแทงตามสถิติชนะ

สูตรนี้เราจะเน้นไปที่การวางเดิมพันฝั่งเจ้ามือเป็นหลัก เพราะเป็นฝั่งที่มีโอกาสชนะมากกว่าผู้เล่นและฝั่งอื่น ๆ หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าหากเราชนะฝั่งเจ้ามือจะต้องเสียค่าคอมมิชชั่นให้กับคาสิโน 5% ขณะที่ชนะฝั่งอื่นจะได้รับเงินรางวัลเต็ม ๆ หมายความว่าฝั่งเจ้ามือมีโอกาสชนะมากกว่าอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามสูตรนี้เหมาะจะใช้กับเวลาที่ไม่รู้จะแทงฝั่งไหนเท่านั้น เพราะการแทงแต่ฝั่งเจ้ามืออย่างเดียวก็มีโอกาสเสียได้เหมือนกัน

สูตรแทงดักเสมอ

แม้กว่าการแทงฝั่งเสมอจะมีโอกาสชนะน้อยมากเมื่อเทียบกับการแทงฝั่งเจ้ามือหรือผู้เล่น ถึงอย่างนั้นเราก็จะวางเดิมพันในฝั่งเสมอด้วยเช่นกัน เพราะมันให้ผลตอบแทนมากถึง 8 เท่า เพียงแต่จะวางเดิมพันด้วยทุนที่น้อยกว่าปกติเนื่องจากเป็นจุดที่มีความเสี่ยงสูงมาก โอกาสที่จะออกมีเพียงแค่ 9-10 ครั้ง ต่อไพ่ 100 ใบเท่านั้น

สูตรแทงตามมังกร

เมื่อใดก็ตามที่มีการฝั่งชนะติดกันหลาย ๆ ตาอย่างน้อย 5 ครั้ง เราจะถือว่านี่คือเค้าไพ่มังกรซึ่งเป็นโอกาสดีที่จะแทงตามน้ำเข้าไปเลย เพราะมีโอกาสมากที่จะชนะติดต่อกันอีก และจะแทงตามแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะออกเสมอหรือออกอีกฝั่ง ก็เป็นสูตรที่เล่นง่าย มือใหม่ก็ทำได้ แต่ว่าโอกาสแบบนี้ในแต่ละโต๊ะจะมีไม่บ่อย หากเห็นว่าโต๊ะไหนเคยออกเค้ามังกรไปแล้วก็อาจจะไม่ออกอีก แต่ถ้าโต๊ะไหนยังไม่ออกก็มีโอกาสที่จะออกสูงมากเช่นกัน

สูตรผิดทาง

ทันทีที่แทงเสียคือผลออกมาผิดทาง สิ่งที่ต้องทำไม่ใช่รีบแทงสวนหรือแก้มือทันที แต่ควรจะหยุดหาจุดเข้าใหม่อีกครั้ง อาจจะรอสักตาสองตาเพื่อดูว่าทิศทางการออกไพ่จะไปเข้าทางฝั่งไหน แล้วค่อยเล่นตามกันไป วิธีนี้จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเสียเงินทุนได้เป็นอย่างดี พร้อมกับช่วยให้มีสติในการเล่นตามแผนมากยิ่งขึ้น

สูตรเดินเงิน

สิ่งนี้จัดว่าขาดไม่ได้กันเลยทีเดียวกับคนที่อยากทำกำไรจากบาคาร่า รู้หรือไม่ว่าเกมนี้มีคนพัฒนาสูตรเดินเงินมาให้เล่นให้ใช้กันมากหลายสิบสูตร แต่ละสูตรจะมีจุดเด่นจุดด้อยเหมาะกับสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นสูตรแทงทบ สูตรมาร์ติกเกล, 1324 และอื่น ๆ อีกมากมาย ข้อดีของการใช้สูตรเดินเงินเข้าช่วยเล่นก็คือจะช่วยให้เราบริหารจัดการเงินทุนได้ดีขึ้น มีโอกาสทำกำไรได้มากขึ้นเมื่อโอกาสมาถึง เพราะถ้าไม่มีสูตรเดินเงินก็ต้องใช้เวลานานกว่าจะคืนทุนหรือได้กำไรตามเป้า สุดท้ายอาจได้ไม่คุ้มเสียอีกต่างหาก

ใช้ AI เข้าช่วย

เดี๋ยวนี้มีโปรแกรม AI ที่จะมาช่วยเล่นซึ่งโปรแกรมนี้จะช่วยเราเอาสถิติการออกไพ่ที่ผ่านมา มาวิเคราะห์หาความน่าจะเป็นว่ามีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่จะออกไพ่ฝั่งใด แม้ว่าจะไม่ได้แม่นร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็เป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มโอกาสชนะและตัดปัญหาการเล่นด้วยอารมณ์ของเราได้ดียิ่งขึ้น

สูตรตามแผน

สูตรไหนที่ว่าเด็ดหากเจอสูตรนี้ต้องมีสยบแน่ แต่นี่คือสูตรที่ผู้เล่นจะต้องเอาชนะใจตัวเองให้ได้เสียก่อน เพราะหากไม่เล่นตามแผนที่วางไว้ล่ะก็ ต่อให้มีสูตรที่ดีหรือโต๊ะดีแค่ไหนก็ไม่สามารถทำกำไรได้อย่างแน่นอน ยิ่งเล่นเสียแล้วอยากได้คืน เล่นได้แล้วอยากได้เพิ่ม แบบนี้จบทุกราย ดังนั้นก่อนเล่นทุกครั้งต้องคิดไว้ก่อนเลยว่าจะใช้ทุนกี่บาท เล่นกี่ตา กำไรแค่ไหนถึงจะพอ ขาดทุนได้แค่ไหน หากกำไรหรือขาดทุนถึงเป้าก่อนก็หยุดไปเลย ไม่ต้องรอเล่นให้ครบจบทุกตา แบบนั้นจะทุนหายกำไรหนไปเสียก่อน

สูตรเลือกโต๊ะ

จะเรียกว่าสูตรก็ไม่เชิง เพราะนี่คือการเลือกหรือมองหาโต๊ะเดิมพันที่วางใจได้ ไม่ใช่แค่ค่ายเกมที่น่าเชื่อถือ เทคโนโลยีที่ทันสมัย หรือสัญญาณภาพที่คมชัดเท่านั้น แต่ต้องเลือกเล่นกับเว็บบาคาร่าที่ได้มาตรฐานอย่าง KUBET ที่ขนเอาบรรดาโต๊ะบาคาร่าชั้นนำในเอเชียมาให้เล่นกัน ได้มาตรฐานสากล พร้อมทีมงานคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เล่นง่ายไม่มีเหงา

และทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสูตรบาคาร่าที่นิยมใช้กันเท่านั้น แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะดูไม่ได้หวือหวาอะไรมากมาย แต่ก็กล้าพูดได้เลยว่าหากคุณเป็นมือใหม่ที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนเลยแม้แต่น้อย แค่ลองใช้สูตรเหล่านี้แล้วเทียบผลลัพธ์ดูจะเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน แถมยังสามารถเอาไปต่อยอดพัฒนาทักษะการเล่นของเราได้อีกด้วย