ทบทวนพื้นฐานบาคาร่ากันก่อน

เราต่างก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าบาคาร่าเป็นเกมพนันที่นิยมกันมากในคาสิโนออนไลน์ ไม่มีเว็บพนันไหนที่ไม่มีบาคาร่าให้เล่น เพราะมันเล่นง่ายไม่ต้องใช้เวลานานในการเรียนรู้ ถึงอัตราจ่ายจะค่อนข้างต่ำ แต่โอกาสที่เราจะชนะมากถึงครึ่งต่อครึ่ง นอกจากนี้ยังมีนักพนันชั้นเซียนทั่วโลกต่างช่วยกันคิดสูตรการเล่น รวมถึงสูตรเดินเงินอีกมากมายที่จะช่วยให้เรามีโอกาสชนะ คาสิโนออนไลน์ ได้มากขึ้นอีกด้วย

รูปแบบการเล่นก็แค่ทายว่าฝั่งไหนจะชนะในรอบนั้นระหว่างฝั่งผู้เล่น (Player) กับฝั่งเจ้ามือ (Banker) หรือจะทายว่าเสมอกันก็ได้ โดยเรามีหน้าที่แค่วางเดิมพันแค่นั้นพอ ที่เหลือจะเป็นหน้าที่ของดีลเลอร์ที่จะแจกไพ่ให้ฝั่งละ 2 ใบ หากแต้มตรงกับเงื่อนไขก็จะมีการเรียกไพ่ใบที่ 3 ออกมาเพื่อตัดสินผลแพ้ชนะ โดยดูจากแต้มที่ได้ ฝั่งไหนได้แต้มใกล้เคียง 9 แต้มมากที่สุดก็เป็นผู้ชนะในรอบนั้น

ประกันภัยบาคาร่า คืออะไร

ประกันภัยบาคาร่าก็เหมือนกับการซื้อประกันภัยต่าง ๆ ในชีวิตจริง เป็นการลดความเสี่ยงในกรณีที่เราทายผลผิด จำนวนเดิมพันที่เสียจากเดิมที่ต้องเสียเต็มจำนวน มันก็จะเสียแค่บางส่วนเท่านั้น คราวนี้การจะซื้อประกันภัยบาคาร่ามันจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเกมเข้าสู่ช่วงการจั่วไพ่ใบที่ 3 ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการซื้อหรือไม่ โดยมีเงื่อนไขว่าเราสามารถซื้อประกันภัยได้เฉพาะในฝั่งที่เราวางเดิมพันแล้วเท่านั้น

ยกตัวอย่างเช่น เราทายว่าฝั่งเจ้ามือจะชนะ แต่พอแจกไพ่ครบแล้วทั้งสองฝั่งเรารู้สึกไม่มั่นใจว่าจะชนะขึ้นมา เราสามารถซื้อประกันภัยไว้ได้เลย เพื่อที่ว่าหากฝั่งเจ้ามือแพ้ขึ้นมาจริง ๆ เงินเดิมพันที่วางไว้ตอนแรกจะได้เสียน้อยลง ส่วนทุนประกันหรือเงินที่ใช้ซื้อประกันจะต้องไม่เกินจำนวนเงินเดิมพันที่วางไว้

และจากนี้เราจะไปดูกันว่าตารางประกันภัยทั้งฝั่งเจ้ามือและฝั่งผู้เล่นนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร ส่งผลอย่างไรบ้างกับเดิมพันของเรา

ตารางประกันภัยเจ้ามือ

หลังจากที่เราวางเดิมพันฝั่งเจ้ามือไปแล้ว การซื้อประกันภัยจะเริ่มขึ้นเมื่อฝั่งเจ้ามือจะทำการจั่วไพ่ใบที่ 3 ตรงนี้สามารถซื้อประกันเผื่อไว้ในกรณีที่เจ้ามือแพ้ เพราะถ้าฝั่งเจ้ามือแพ้ขึ้นมามันจะช่วยให้เราเสียเดิมพันน้อยลง โดยเงินที่ใช้ซื้อประกันจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับเกม หมายความว่าเราจะต้องใช้เงินอีกก้อนเพื่อซื้อประกันตัวนี้ต่างหาก

สำหรับรูปแบบการจ่ายเงินประกันของบาคาร่าจะเป็นลักษณะนี้ คือเมื่อเราวางเดิมพันฝั่งเจ้ามือ และได้ซื้อประกันภัยไว้เรียบร้อยแล้ว บังเอิญเจ้ามือเกิดแพ้ขึ้นมาจริง ๆ เดิมพันที่เราวางไว้บนโต๊ะก็คือเสียไปทั้งหมดตามกฎ แต่ถ้าเราซื้อประกันไว้แล้ว ประกันจะทำหน้าที่จ่ายเงินให้ ซึ่งจะมีอัตราการจ่ายที่แตกต่างกันไปตามคะแนนไพ่ของทั้งฝั่งเจ้ามือ และผู้เล่น ตามตาราง

ตารางการจ่ายเงินประกันภัยเจ้ามือ

สมมติว่าเราแทงฝั่งเจ้ามือ 100 บาท เกมดำเนินต่อไปโดยที่ตอนนี้ฝั่งผู้เล่นมีไพ่สองใบในมือทั้งหมด 3 แต้ม ส่วนฝั่งเจ้ามือมีไพ่สองใบ 4 แต้ม ตอนนี้ฝั่งเจ้ามือจะต้องจั่วไพ่ใบที่ 3 เราคิดว่ารอบนี้ฝั่งผู้เล่นน่าจะเป็นฝ่ายชนะมากกว่า เราเลยตัดสินใจซื้อประกันภัยไป 60 บาท (ไม่เกินเดิมพันที่วางไว้) และสุดท้ายผลก็ออกมาตามคาด คือฝั่งเจ้ามือแพ้ ประกันจะต้องจ่ายเงินตามสูตรนี้

(ทุนซื้อประกัน x อัตราจ่ายประกันภัย) + ทุนประกัน = เงินที่จะได้รับ

(60 x 1.5) + 60 = 150 บาท

เมื่อเอามาหักลบกลบนี้กันแล้ว เงินที่เราเสียไปครั้งแรกคือ เงินเดิมพันฝั่งเจ้ามือ 100 บาท เงินซื้อประกันอีก 60 บาท รวมเป็น 160 บาท แต่เราได้รับเงินประกันจากการที่ฝั่งเจ้ามือแพ้กลับมา 150 บาท เท่ากับว่าเราขาดทุนอยู่ 10 บาท

ถึงแม้ว่าการซื้อประกันจะเป็นการจ่ายทิ้ง แต่คิดดูซิว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหากเราไม่ซื้อประกันบาคาร่าไว้ นั่นหมายความว่าเราจะเสียเดิมพันไปเต็ม ๆ เลย 100 บาทนั่นเอง แต่พอซื้อไว้มันช่วยเซฟเงินไว้ได้ตั้ง 90 บาทเลยทีเดียว ทีนี้เราไปดูกันบ้างว่าถ้าเราซื้อประกันฝั่งผู้เล่นมันจะมีความแตกต่างกันอย่างไร

ตารางประกันภัยผู้เล่น

สำหรับประกันภัยผู้เล่นจะมีวิธีการซื้อประกันเช่นเดียวกับฝั่งเจ้ามือ คือจะเริ่มเปิดให้ซื้อเมื่อฝั่งผู้เล่นจะทำการจั่วไพ่ใบที่ 3 การซื้อประกันบาคาร่าเอาไว้จะช่วยให้เราเสียเงินน้อยลงเมื่อฝั่งเจ้ามือชนะ และอัตราจ่ายก็จะเป็นไปตามตารางนี้

ตารางการจ่ายเงินประกันภัยผู้เล่น

สมมติว่าเราวางเดิมพันฝั่งผู้เล่น 100 บาท ตอนนี้ฝั่งผู้เล่นมีไพ่อยู่ 3 ใบ 8 แต้ม ขณะที่ฝั่งเจ้ามือมีไพ่ 2 ใบ 6 แต้ม เราคิดว่าเกมน่าจะพลิกให้ฝั่งเจ้ามือชนะ เลยตัดสินใจซื้อประกันภัยไว้อีก 100 บาท และสุดท้ายฝั่งเจ้ามือก็ชนะจริง ๆ ด้วย ทางประกันก็จะต้องจ่ายให้เรา 8 เท่าตามตารางจ่ายเงิน กลายเป็นว่าเสียเดิมพันแค่ 100 แต่ได้เงินประกันมา 800 เท่ากับว่ารอบนี้เราได้กำไรมากถึง 700 ทีเดียว

เมื่อพูดถึงสูตรบาคาร่าคนส่วนมากมักจะคิดว่าเกี่ยวกับการลงเงินทุน ที่จริงแล้วสูตรบาคาร่ามีอยู่ 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ก็คือ สูตรเล่นบาคาร่า กับสูตรเดินเงินบาคาร่า ซึ่งแต่และสูตรก็จะมีความแตกต่างกันไปดังนี้

สูตรเล่นบาคาร่า คืออะไร

สูตรเล่นบาคาร่า เป็นสูตรที่เน้นทำกำไรโดยอาศัยจังหวะในการวางเดิมพัน ไม่มีการไปคิดคำนวณว่าตาไหนจะต้องวางเงินกี่บาท โดยทั่วไปแล้วสูตรเล่นบาคาร่าที่นิยมใช้กันจะมีอยู่ 2 แบบใหญ่ ๆ คือ

สูตร 4 in 1

หรือที่เรียกกันว่าสูตรเหมารวม สูตรนี้จะช่วยให้ทำกำไรได้ในระยะยาว วิธีนี้จะช่วยให้นั่งเล่นได้นานเท่าที่ต้องการโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่า House Edge หลักการคือเราจะดูจากเค้าไพ่ที่เป็นสถิติย้อนหลังในการออกไพ่ว่าอยู่ในรูปแบบใบ โดยเค้าไพ่หลัก ๆ ที่ใช้จะมีอยู่ 4 แบบ คือ

• เค้าออกติด เราจะดูที่การออกไพ่ 2 ครั้งล่าสุดว่าเป็นแบบไหน ถ้าออกฝั่งผู้เล่น 2 รอบติดกัน หรือเจ้ามือ 2 ตาซ้อน อันนี้เราเรียกว่าไพ่ติด ถ้าเจอไพ่ออกมาในรูปแบบนี้ให้วางเดิมพันฝั่งเดียวกับสองครั้งล่าสุดนี้ต่อไป สมมติว่ามันออกฝั่งเจ้ามือมาแล้วสองครั้ง ครั้งต่อไปเราแทงเจ้ามือตามไปได้เลย
• เค้าออกสลับ ให้ดูการออกไพ่ 3 ครั้งล่าสุด ถ้าออกสลับกันเช่น ผู้เล่น เจ้ามือ ผู้เล่น หรือ เจ้ามือ ผู้เล่น เจ้ามือ ถ้าเป็นแบบนี้ถือว่าเป็นเค้าไพ่สลับ เวลาวางเดิมพันให้แทงฝั่งตรงข้ามกับฝั่งที่ออกครั้งสุดท้าย สมมติว่าออก เจ้ามือ ผู้เล่น เจ้ามือ ตาต่อไปเราแทง ผู้เล่น รอไว้ได้เลย
• เค้าสองสลับหนึ่ง วิธีการดูคือให้ดูที่เค้าไพ่ 3 ตาล่าสุด ถ้าไพ่ออกมาเป็น เจ้ามือ เจ้ามือ ผู้เล่น หรือ ผู้เล่น ผู้เล่น เจ้ามือ ลักษณะนี้เราเรียกว่า สองสลับหนึ่ง ตาต่อไปให้แทงฝั่งตรงข้ามกับฝั่งที่ชนะในตาล่าสุด สมมติว่าออก เจ้ามือ เจ้ามือ ผู้เล่น ครั้งต่อไปเราจะแทง เจ้ามือ
• เค้าสลับสอง ลักษณะจะคล้ายกับสลับหนึ่ง ต่างกันตรงที่มันจะออกฝั่งเดียวกันสองตาติดแล้วค่อยสลับไปออกอีกฝั่งสองตาติด เช่น เจ้ามือ เจ้ามือ ผู้เล่น ผู้เล่น ถ้าเราเจอไพ่ออกรูปแบบนี้รอบต่อไปให้แทง เจ้ามือ

สูตรเป่าจินจง

เป็นอีกสูตรบาคาร่าที่ถูกคิดค้นโดยนักพนันชาวจีน โดยหลักการแล้วสูตรนี้จะดูแค่ว่า

• ฝั่งไหนก็ตามถ้าชนะด้วยไพ่ 2 ใบ ครั้งต่อไปให้วางเดิมพันฝั่งผู้เล่นเท่านั้น
• ฝั่งไหนชนะด้วยไพ่ 3 ใบ ครั้งต่อไปให้แทงฝั่งเจ้ามือเท่านั้น

สูตรเดินเงิน คืออะไร

สูตรเดินเงินจะมีความแตกต่างจากสูตรเล่นบาคาร่าตรงที่สูตรนี้จะเป็นการโฟกัสไปที่การวางเงินเดิมพันเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการรักษาเงินทุน, การทำกำไร รวมถึงการตามเงินทุนที่เสียไปกลับคืนมา ที่นิยมใช้กันจะมีอยู่ 3 สูตรหลัก ๆ คือ

สูตรเดินเงินคงที่

เป็นสูตรที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่มือใหม่ เพียงแค่เอาเงินทุนที่มีทั้งหมดมาเฉลี่ยออกเป็นกองละเท่า ๆ กัน จะแพ้หรือชนะก็จะวางเดิมพันเท่าเดิม จึงเหมาะกับการใช้คู่กับสูตร 4 in 1 สมมติว่าเรามีเงินอยู่ 1,000 บาท เราว่าจะแทงรอบละ 100 เท่ากับว่าด้วยเงินที่มีอยู่เราจะสามารถเล่นได้ทั้งหมด 10 ครั้ง ถ้าดวงดีฝีมือได้ชนะรวดเดียว 10 ตาก็จะได้กำไรกลับมา 10 หน่วย วิธีนี้จึงค่อนข้างเหมาะกับคนงบน้อยอย่างยิ่ง

สูตร Martingale

หรือที่เรียกว่าสูตรแทงทบ สูตรนี้เวลาแพ้รอบต่อไปเราจะวางเดิมพันเป็นสองเท่าของรอบล่าสุด จาก 1 เป็น 2, 4, 8 และ 16 แต่เราจะจำกัดระยะแทงทบไว้ที่ 5 ไม้ หรือก็คือแทงทบไปไม่เกิน 5 ครั้ง ถ้าหมดไม้แล้วยังไม่ได้คืนให้หยุดก่อน หรือจะกลับไปเริ่มหนึ่งใหม่ก็ได้ แต่ถ้าได้ก่อนจะถึงไม้ 5 ก็ให้หยุดทันที

อย่างไรก็ตามสูตรนี้ถ้าเราสามารถชนะได้ใน 5 ไม้ เงินที่เราเสียไปจะได้กลับคืนมาทั้งหมดบวกกับกำไรอีก 1 หน่วยเป็นของแถม แต่มันก็มีข้อควรระวังคือถ้าเราต้องการใช้สูตรนี้จำเป็นต้องมีทุนอยู่ 100 หน่วย คือถ้าเล่นรอบละ 100 บาท ก็จำเป็นต้องมีทุนสัก 10,000 แต่ถ้ามีไม่ถึงอย่างน้อยขอให้มีสัก 50 หน่วยหรือ 5,000 บาทก็ยังดี เพื่อที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการใช้สูตรนั่นเอง

สูตร Super Martingale

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสูตรโกงตายที่มีความคล้ายกับ Martingale ตรงที่มีระยะ 5 ไม้เหมือนกัน แต่ทุนที่จะใช้มีมากกว่าเป็นแบบทบ+1 คือ 1 เป็น 3, 7, 15 และ 31ถ้าหากเราสามารถชนะได้ในไม้ที่ 5 นอกจากทุนที่เสียไปจะได้กลับคืนมาแล้วยังจะได้กำไรคืนมาอีก 5 ไม้ แต่นั่นก็แลกมาด้วยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

สล็อตออนไลน์ วงล้อลุ้นรวย

อย่างที่ทราบกันดีว่าสล็อตเป็นเกมเดิมพันที่ได้รับความนิยมมาก เพราะเป็นเกมที่เล่นง่าย ไม่ต้องใช้กลยุทธ์อะไรมากมาย ต่อให้ไม่มีพื้นฐานการพนันมาก่อนก็ใช้เวลาไม่นานก็เล่นกันได้แล้ว เงินรางวัลที่ได้ก็มีตั้งแต่เล็ก ๆ น้อย ๆ แบบพอให้หอมปากหอมคอไปจนถึงหลักแสนหลักล้านจนต้องหอบเงินกลับบ้านก็มี เดิมทีสล็อตเป็นเพียงแค่ตู้เกมหยอดเหรียญธรรมดา ๆ ที่ตั้งอยู่ในบ่อนคาสิโน ผับบาร์ ร้านอาหารทั่วไป มีหลายเกมให้เลือกเล่น แต่พอเป็นสล็อตออนไลน์กันแล้วเกมนี้ก็เล่นง่ายขึ้นพร้อมกับรูปแบบที่ทันสมัย เล่นได้ทุกที่ทุกเวลา

การเล่นเกมสล็อตส่วนมากจะใช้ขึ้นอยู่ที่ผู้เล่นว่าจะเลือกรูปแบบ หรือชนิดของเกมสล็อตอย่างไร เพราะเกมแต่ละแบบก็จะให้ความเสี่ยงที่แตกต่างกัน อัตราจ่ายจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงด้วย มีทั้งเกมที่ดีและเกมที่แย่คละกันไป ผู้เล่นจึงต้องเข้าใจวิธีการเลือกเกม เพื่อที่จะได้เล่นอย่างมีความสุขและสามารถเล่นสล็อตได้เงินจริงเหมือนที่เขาว่ากันมา

บาคาร่าออนไลน์ เกมไพ่เก้าแต้ม

เชื่อว่าทุกคนคงต้องรู้จักหรือเคยได้ยินชื่อบาคาร่ากันอย่างแน่นอน เพราะนี่คือเกมพนันที่ใช้ไพ่เป็นอุปกรณ์หลักในการเล่นซึ่งได้รับความนิยมมาก ๆ จนทุกเว็บจะต้องมีไว้ให้เล่นกัน ส่วนวิธีการเล่นมีเพียงแค่ทายว่าระหว่าง เจ้ามือ กับ ผู้เล่น ฝั่งไหนจะได้แต้มมากกว่ากัน โดยฝั่งที่ได้แค่ 9 แต้มหรือใกล้เคียงจะเป็นฝ่ายชนะ นอกจากจะมีอัตราจ่ายที่คงที่แล้ว เกมนี้ยังมีโอกาสชนะสูงถึง 50% เลยทีเดียว เลยทำให้บาคาร่าเป็นเกมพนันที่มีความเสี่ยงต่ำมาก ๆ

แต่นั่นก็แลกมาด้วยอัตราจ่ายที่ต่ำด้วยเช่นกัน โดยจะมีอัตราจ่ายเริ่มต้นที่ 1 : 1 เลยทำให้เกมนี้มีการพัฒนาสูตรเดินเงินต่าง ๆ มากมายออกมาใช้เล่นร่วมกัน เพื่อให้ผู้เล่นมีโอกาสทำกำไรได้มากขึ้น และยังมีการนำสถิติการออกรางวัลมาคำนวณเพื่อหาความน่าจะเป็นกันอีกด้วย

สล็อตกับบาคาร่า ต่างกันตรงไหน

            ในเมื่อทั้งสองเกมต่างก็เล่นง่าย เหมาะกับผู้เล่นมือใหม่เหมือน ๆ กัน ถ้าต้องให้เลือกเกมใดเกมหนึ่งเพื่อทำกำไรแล้วล่ะก็ เรามีข้อแตกต่างของทั้งสองเกมมาเปรียบเทียบให้เห็นกันชัด ๆ จะได้ตัดสินใจง่ายว่าควรเล่นเกมไหนดี

รูปแบบการเล่น

สล็อต มีรูปแบบการเล่นที่ง่ายกว่า แค่วางเดิมพัน กดสปิน แล้วลุ้นผลรางวัลกันไป ส่วนเกมรุ่นใหม่ ๆ ก็มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจมาช่วยทำกำไรอย่างการซื้อโบนัสหรือซื้อสปินอีกด้วย

บาคาร่า ผู้เล่นจะต้องคาดเดาผลก่อนว่าฝั่งเจ้ามือหรือผู้เล่นจะเป็นผู้ชนะ ส่วนดีลเลอร์จะเป็นคนแจกไพ่และดำเนินเกมให้ ที่เหลือก็แค่รอให้ฝั่งที่เราเชียร์ชนะก็พอแล้ว

โอกาสชนะ

สล็อต เป็นเกมที่คาดเดาโอกาสชนะของเกมได้อยากมาก เพราะเกมนี้ถูกพัฒนาด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์และทำงานด้วยระบบสุ่มแบบ 100% ทำให้ไม่สามารถคาดเดาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตามโอกาสชนะของเกมนี้จะมีปัจจัยหลายหลายร่วมกันตั้งแต่ค่า RTP, RNG, ความผันผวน, รูปแบบเกม (จำนวนรีล, แถว, สัญลักษณ์) ไปจนถึงจำนวนผู้เล่นในแต่ละช่วงเวลาด้วย

บาคาร่า โอกาสชนะเรียกได้ว่าครึ่งต่อครึ่งเป็นอย่างต่ำ ส่วนตัวเกมก็มีระบบบันทึกผลการออกรางวัลไว้ให้ดูอยู่แล้ว ทำให้มีข้อมูลย้อนหลังเอาไว้ช่วยวิเคราะห์ว่าตาต่อไปมีความน่าจะเป็นที่จะออกรางวัลในรูปแบบไหน ยิ่งมีการใช้สูตรเล่นหรือสูตรเดินเงินยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไรขึ้นไปอีก ถึงจะจ่ายน้อยแต่ถ้ามีทักษะในการอ่านเค้าไพ่และบริหารเงินทุนล่ะก็สามารถทำกำไรได้ไม่ยาก

อัตราจ่าย

สล็อต อัตราการจ่ายเงินรางวัลของสล็อตค่อนข้างมีความผันผวนสูง ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงของเกม ยิ่งเป็นเกมที่ต้องวางเดิมพันมาก หรือให้รางวัลใหญ่ ยิ่งมีโอกาสถูกรางวัลน้อย แต่ถ้าถูกมาทีก็สามารถทำกำไรได้มหาศาล ยิ่งใครดวงดีได้โบนัสแจ็คพอต ก็สามารถคืนทุนได้ในเวลาไม่ถึง 10 นาทีแล้ว เรียกได้ว่ายิ่งเสี่ยงสูง ยิ่งจ่ายสูงนั่นเอง

บาคาร่า เงินรางวัลที่ได้รับมีอัตราจ่ายตายตัวอยู่แล้วในแต่ละตำแหน่ง ช่วยให้คำนวณได้ว่าเสี่ยงแค่ไหนจะได้รับกำไรมากน้อยเพียงใด บางคนอาจเลือกแทงฝั่งเจ้ามือเพราะมีความเสี่ยงต่ำที่สุด แม้ว่าจะต้องโดนหักค่าน้ำไป 5% ก็ตาม และเนื่องจากมันเป็นเกมที่ให้อัตราจ่ายต่ำตามระดับความเสี่ยง เลยทำให้เกมนี้มีสูตรช่วยเล่นมากมาย สามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกสถานการณ์

มาถึงตรงนี้คงเห็นกันแล้วว่าทั้งสองเกมนี้แม้ว่าจะเล่นง่ายเหมือนกันแต่ก็ยังมีความแตกต่างให้ตัดสินใจอยู่บ้าง สำหรับใครที่ไม่ชอบคิดอะไรมากมาย ชอบเสี่ยงโชควัดดวง เกมสล็อตก็น่าจะเป็นคำตอบที่ใช่ แต่ก็ต้องไปศึกษาวิธีการเลือกเกมสล็อตเอาไว้ด้วยถึงจะมีโอกาสทำกำไรหรือลุ้นรางวัลก้อนใหญ่ ส่วนใครที่ชอบความเสี่ยงต่ำ เน้นชัวร์ บาคาร่าคือคำตอบสุดท้ายแบบไม่ต้องคิดเยอะ ถึงอย่างนั้นทักษะการอ่านเค้าไพ่ก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น เพราะการเล่นไปนาน ๆ แน่นอนว่าสุดท้ายแล้วเราก็จะพลาดท่าเสียเงินให้กับค่า House Edge อยู่ดี แต่ไม่ว่าทางไหนเกมที่ทำกำไรได้ดีที่สุดก็คือเกมที่เราถนัดนั่นเอง

อันที่จริงแล้วบาคาร่าเป็นเกมพนันที่มีสูตรการเล่นและสูตรเดินเงินเยอะมาก ๆ เพื่อที่จะเอามาช่วยเพิ่มโอกาสเอาชนะและทำกำไรให้ได้มากขึ้น หลัก ๆ สูตรบาคาร่า ที่นิยมใช้ก็จะมี สูตรบาคาร่าเป่าจินจง, สูตรบาคาร่าคู่คี่ และสูตรบาคาร่าแพ็คเกจรวม 4 สูตร ซึ่งสูตรเหล่านี้จำเป็นต้องใช้ร่วมกับสูตรเดินเงินด้วยเพื่อจะได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ส่วนใหญ่ก็จะใช้สูตรเดินเงินมาร์ติงเกล กับสูตรเดินเงินฟิโบนัชชี เราไปดูกันดีกว่าครับว่าแต่ละสูตรมันเป็นยังไง

สูตรเป่าจินจง

หากคุณเป็นคนที่อ่านเค้าไพ่ไม่เก่ง จับทางไพ่ไม่ได้ สูตรนี้สามารถช่วยได้แน่ ๆ แค่ดูไพ่ที่ถูกเปิดขึ้นของแต่ละฝั่งเท่านั้น เงื่อนไขการใช้สูตรก็มีแค่ 2 ข้อ คือ

• ถ้าฝั่งใดฝั่งหนึ่งชนะด้วยไพ่ 2 ใบ ตาต่อไปให้วางเดิมพันฝั่งผู้เล่นหรือ Player โดยไม่ต้องไปสนใจว่าจะชนะกันด้วยกี่แต้ม หรือว่าชนะด้วยไพ่ดอกอะไร สีอะไร แต้มห่างกันแค่ไหน จำไว้แค่ว่าถ้าชนะด้วยไพ่ 2 ใบให้แทงผู้เล่นก็พอ
• ถ้าฝั่งใดฝั่งหนึ่งชนะด้วยไพ่ 3 ใบ ตาต่อไปให้วางเดิมพันฝั่งเจ้ามือหรือ Banker เช่นเดิมเราไม่ต้องไปกังวลว่าแต้มที่ชนะกันนั้นจะห่างกันมากน้อยแค่ไหน ชนะด้วยแต้มคู่หรือคี่ ชนะด้วยไพ่คู่ไหม เอาง่าย ๆ ถ้าชนะด้วยไพ่ 3 ใบ ตาต่อไปแทงเจ้ามือเลย

อย่างไรก็ตามสูตรนี้ก็มีความเคลื่อนได้เหมือนกัน การใช้สูตรเดินเงินเข้าช่วยจะทำให้สูตรบาคาร่านี้ได้ผลดียิ่งขึ้น

สูตรคู่-คี่

แม้ว่าจะต้องดูเค้าไพ่แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป เพราะเราดูแค่ 4 ตาสุดท้ายเท่านั้นว่าออกเป็นคู่ หรือคี่ สำหรับวิธีดูเค้าไพ่มีดังนี้

• เค้าไพ่คู่ ให้จับคู่สีว่าใน 4 ตาสุดท้ายมันได้คู่กันหรือไม่ ถ้าออก แดง-แดง-น้ำเงิน-น้ำเงิน แบบนี้เรียกว่าไพ่คู่ ตาต่อไปให้แทงแดง เพื่อให้เป็นเค้าไพ่คู่เหมือนเดิมคือ แดง-น้ำเงิน-น้ำเงิน-แดง หากนึกภาพไม่ออกให้ดูรูปต่อไปนี้ นี่คือเค้าไพ่คู่ที่กำลังพูดถึง
• เค้าไพ่คี่ ให้จับคู่สีจากการออกไพ่ใน 4 ตาสุดท้ายเหมือนเดิมว่ามีเศษหรือไม่ หากมีเศษหรือไม่ลงตัวถือว่าเป็นไพ่คี่ เช่น แดง-แดง-แดง-น้ำเงิน อันนี้เป็นเค้าไพ่คี่ ตาต่อไปแทง แดง เพื่อให้เป็นเค้าไพ่คี่เหมือนเดิมก็จะได้ แดง-แดง-น้ำเงิน-แดง เป็นต้น ตามรูปข้างล่าง

ปกติแล้วการออกเค้าไพ่คู่-คี่ มักจะออกติดกันประมาณ 5-6 ตา ถึงจะเปลี่ยน ดังนั้นหากชนะหรือว่าได้กำไรพอควรแล้วก็ให้หยุดเล่น ไม่ก็เปลี่ยนห้องจะดีที่สุด แน่นอนว่าการใช้สูตรเดินเงินเข้าช่วยจะทำให้การทำกำไรในแต่ละห้องเพิ่มขึ้นเช่นกัน

สูตรแพ็ค 4

สูตรนี้เป็นการดูเค้าไพ่เป็นหลัก ซึ่งจะมีทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน แต่ละแบบก็จะมีวิธีแทงที่แตกต่างกันไปดังนี้

• เค้าไพ่แบบออกติด ให้ดูการออกไพ่ 2 ตาสุดท้ายว่าออกเป็นสีเดียวกันหรือไม่ ถ้าเป็นสีเดียวกันตาต่อไปให้แทงสีนั้นได้เลย
• เค้าไพ่แบบออกสลับ ให้ดูการออกไพ่ 3 ตาสุดท้ายว่าสลับกันหรือไม่ ถ้าออกสลับกัน ตาต่อไปให้แทงฝั่งตรงข้ามของตาสุดท้าย
• เค้าไพ่แบบติดสองสลับหนึ่ง หรือเค้าไพ่ 2-1 ให้ดูการออกไพ่ 3 ตาสุดท้าย ถ้าออกสีเดียวกัน 2 ตา และตาสุดท้ายเป็นอีกสี ให้แทงฝั่งตรงข้ามของตาสุดท้าย
• เค้าไพ่แบบ 2-2-2 ให้ดูการออกไพ่ 4 ครั้งสุดท้าย ถ้าออกสีเดียวกัน 2 ครั้ง และสลับมาออกอีกสี 2 ตาติด ตาต่อไปให้แทงฝั่งตรงข้ามกับสองตาสุดท้ายได้เลย

การใช้ สูตรบาคาร่า แพ็ค 4 จะต้องคอยอ่านเค้าไพ่อยู่ตลอดเพราะสูตรสามารถเปลี่ยนได้ตลอดเวลาตามเค้าไพ่ ถือว่าเป็นสูตรที่มีความยืดหยุ่นมากที่สุด และเหมือนเดิมหากเล่นได้กำไรสัก 10-30% ของทุนก็ควรพอ ไม่ก็เปลี่ยนห้องจะดีที่สุด

สรุปก็คือการที่จะเอาชนะคาสิโนหรือว่าทำกำไรจากการเล่นบาคาร่าให้ได้มาก ๆ นั้น ควรเลือกสูตรบาคาร่าและสูตรเดินเงินที่คิดว่าเราเข้าใจมันมากที่สุดจะดีกว่า เพราะสูตรที่ดีที่สุดคือสูตรที่เราเข้าใจที่สุด ตรงกันข้ามหากไปเลือกสูตรที่เขาอวยกันว่าดีที่สุดแต่เราไม่เข้าใจ มันจะกลายเป็นสูตรที่แย่จนทำให้เราหมดตัวได้เหมือนกัน

เรื่องที่ 1 เค้าไพ่เป็นแค่อดีต

สูตรบาคาร่าหลายสำนักมักจะบอกคล้าย ๆ กันว่าให้ดูเค้าไพ่ก่อนเล่นเป็นหลัก หากออกสลับรอบต่อไปก็ให้แทงฝั่งตรงข้าม หรือถ้าออกเค้ามังกรมายาว ๆ เตรียมแทงอีกฝั่งรอได้เลย หากทำตามนี้แล้วมีโอกาสที่จะชนะสูง ซึ่งสูตรพวกนี้มันก็ใช้ได้จริง ๆ ถ้าหากว่าจังหวะที่เราแทงกับไพ่มันออกตรงกันนะ

พอเอาเข้าจริง ๆ สถิติหรือเค้าไพ่ไม่ได้มีอะไรมาการันตีเลยว่ามันจะทำให้เราชนะได้ 100% หากเป็นอย่างนั้นคงไม่มีคาสิโนเจ้าไหนยอมให้เห็นเค้าไพ่แน่ อย่าลืมว่าบาคาร่าบางโต๊ะใช้ไพ่มากถึง 8 สำรับ หรืออย่างน้อยก็ 5 สำรับแล้ว และเวลาสับไพ่เราไม่มีทางรู้เลยว่าแต้มไหนอยู่ตรงไหน ทำได้แค่คาดเดาจากเค้าไพ่แล้วขอให้มันถูกก็แค่นั้นเอง

เรื่องที่ 2 ศึกษากฎกติกาเอาไว้บ้าง

มันเป็นเรื่องง่ายมากที่เกมบาคาร่าจะเป็นที่นิยม เพราะนักเดิมพันไม่ต้องทำอะไรกับมันมาก แค่วางเดิมพันลงไปในฝั่งที่ต้องการแล้วลุ้นผลก็พอ ยากได้กำไรเยอะก็ลงที่อัตราจ่ายเยอะ ส่วนเรื่องกฎต่าง ๆ ไม่ต้องสนใจเพราะมีดีลเลอร์คอยดูแลให้อยู่แล้ว

แต่ว่าบาคาร่ามันไม่ได้มีแค่ว่าวางเดิมพันแล้วจบ กฎไพ่ใบที่ 3 แม้เราจะไม่ได้ใช้แต่ก็ควรรู้ไว้บ้าง และที่สำคัญกว่าก็คือพวกอัตราจ่าย ต้องรู้ว่าแทงฝั่งไหนหมายถึงอะไร มีเงื่อนไขอะไรบ้าง อัตราจ่ายเป็นอย่างไร ซึ่งมันจะช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายว่าช่วงไหนควรจะวางเดิมพันฝั่งไหน หากใครที่ขี้เกียจจริง ๆ อย่างน้อยก็จำไว้ว่ายิ่งอัตราจ่ายสูงโอกาสชนะยิ่งมีน้อยยังดี

เรื่องที่ 3 ฝากเร็ว ถอนไว ต้องทำตามเงื่อนไขเท่านั้น

ทุกวันนี้คาสิโนออนไลน์หลายที่มีการการันตีเวลาฝากถอนซึ่งมันก็ทำได้ไวตามคำโฆษณาจริง ๆ สามารถทำตั้งแต่ต้นจนจบได้ภายในไม่กี่นาที บางที่ไม่ถึงนาทีเสียด้วยซ้ำ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับความลับล่ะ

เงื่อนไขการฝาก-ถอน คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยอ่านกัน ปกติแล้วเวลาฝากไปจะต้องมีการทำเทิร์นโอเวอร์ตามเงื่อนไขเสียก่อนจึงจะถอนได้ เพราะนี่คือบัญชีเดิมพันไม่ใช่บัญชีเงินฝากธนาคาร ทีนี้ก็จะมีคนที่คิดว่าเล่นแป๊บ ๆ เดี๋ยวก็ถอนได้ เลยไปเอาเงินที่จำเป็นต้องใช้มาเล่นกะมาหมุนก่อน สุดท้ายไม่ทันได้ทำกำไร ถอนก็ไม่ได้ เงินก็ไม่มีใช้อีก ทางทีดีอย่าเอาเงินที่จำเป็นมาเล่นจะดีที่สุด

เรื่องที่ 4 โอกาสชนะอยู่ที่ฝั่งเจ้ามือ

ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่าฝั่งเจ้ามือจะมีการหักค่าคอม 5% (แต่เดี๋ยวนี้หลายโต๊ะไม่ค่อยมีกันแล้ว) ทำให้หลายคนไม่ค่อยอยากแทงฝั่งนี้ เพราะโดนหักกำไรออกไป ความจริงแล้วมันคือจุดอ่อนสำคัญของบาคาร่า มันคือตำแหน่งที่คาสิโนออนไลน์มีค่า House Edge หรือความได้เปรียบน้อยที่สุด เท่ากับว่าโอกาสชนะของเรามีมากกว่าฝั่งอื่นนั่นเอง

เรื่องที่ 5 คาสิโนได้เปรียบในตำแหน่งเสมอ

เนื่องจากบาคาร่าเป็นเกมที่คาสิโนมีความได้เปรียบต่ำอยู่แล้ว เดิมทีมีแค่การวางเดิมพันในฝั่งเจ้ามือ ผู้เล่น ก่อนจะมีฝั่งเสมอมาเพิ่มความได้เปรียบแลกกับอัตราจ่ายที่มากถึง 8 เท่า ในช่วงหลังบาคาร่ามีการพัฒนากฎการเล่นมากมาย มีการแทงได้หลายฝั่งมากขึ้น และเหมือนเดิมยิ่งมีอัตราจ่ายสูง คาสิโนยิ่งได้เปรียบ

เรื่องที่ 6 ตั้งเป้าหมายในการเล่นทุกครั้ง

ใครที่อยากจะทำกำไรจากบาคาร่าชัวร์ ๆ เป้าหมายคือสิ่งที่ต้องมี วางไว้เลยว่าวันนี้จะเล่นกี่ตา ใช้เงินกี่บาท ขาดทุนได้แค่ไหน กำไรเท่าไหร่ถึงจะเลิก เวลาที่เล่นไปแล้วหากเป้าหมายใดถึงก่อนให้เลิกเล่นทันที เช่น ตั้งเป้าไว้ว่าจะเล่น 10 รอบ กำไร 100 พอ เล่นไป 2 รอบ กำไรได้ถึงเป้าแล้วให้เลิกเลย ไม่ต้องรอให้ถึง 10 รอบ เพราะ 8 รอบที่เหลือเราอาจจะเสียมากกว่าได้ ในระยะยาวยังไงคาสิโนก็ได้เปรียบกว่าอยู่ดี

เรื่องที่ 7 ศึกษาสูตรเดินเงินเอาไว้เสียบ้าง

            คาสิโนจะชอบมากหากนักเดิมพันเล่นกันแบบเรื่อย ๆ ถึงชนะก็แค่จ่าย 1 เท่า แต่ถ้าใครที่ศึกษาสูตรเดินเงินจะรู้วามันไม่ได้มีแค่สูตรสำหรับทำกำไรเท่านั้น แต่มันยังมีสูตรที่เอาไว้ถอนทุนเวลาที่เสียพร้อมกับรีดกำไรคืนมาอีกด้วย นั่นเท่ากับว่าคาสิโนมีโอกาสที่ต้องจ่ายเงินมากกว่าเดิม ก็บอกได้แค่ว่าสูตรเดินเงินของมันต้องมีจริง ๆ

เรื่องที่ 8 รอให้เป็น เน้นหาจังหวะเข้าเล่นก็พอ

            คนส่วนใหญ่พอเข้าไปแล้วหาทางออกไม่เจอจนกว่าจะเสียหมดตัว วิธีทำกำไรที่ดีที่สุดคือการรอจังหวะแทง เช่น หากโต๊ะนั้นส่วนใหญ่ออกฝั่งเดียวติดกันไม่เกิน 5 ตา ถ้าเจอออกติดกันฝั่งเดียว 5 รอบ รอบที่ 6 เราแทงอีกฝั่งรอได้เลย โอกาสชนะมีสูงกว่า จากนั้นก็หาจังหวะเข้าใหม่ ไม่จำเป็นต้องเล่นต่อเนื่อง

ข้อดีของบาคาร่า

แน่นอนว่าก่อนเราจะเล่นเกมคาสิโนอะไรสักอย่าง สิ่งที่ควรทำอย่างแรกเลยก็คือต้องรู้ให้ได้ว่ามันมีดีอะไรบ้าง ทำไมคนถึงเล่นกันมาก และนี้ก็คือข้อดีที่นักเดิมพันต่างยอมรับว่าไม่สามารถหาได้จากเกมไหนอีกแล้วบนโลกคาสิโน

1. ความยุติธรรมที่มีต่อนักเดิมพัน

รู้หรือไม่ว่าทุกเกมเดิมพันที่มีให้เราได้เลือกเล่นกันอยู่นั้น มันถูกออกแบบมาให้คาสิโนได้เปรียบเราในระยะยาว จึงไม่แปลกที่จะเห็นคนยิ่งเล่นยิ่งเสียทั้งที่ช่วงแรก ๆ ก็ยังเล่นได้อยู่ ซึ่งสิ่งนี้เรียกกันว่าค่า House Edge แน่นอนว่าในบาคาร่าก็มีเช่นกัน

ทว่าสิ่งที่ทำให้บาคาร่าเป็นเกมที่มีความยุติธรรมต่อนักเดิมพันมากที่สุดก็คือเกมนี้มีค่า House Edge ที่เป็นกลาง โอกาสแพ้ชนะจากการวางเดิมพันในฝั่งผู้เล่นและเจ้ามืออยู่ครึ่งต่อครึ่ง ช่วยให้มีโอกาสทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับอีกสารพัดสูตรเดินเงินที่พร้อมจะช่วยทำกำไรได้อีกด้วย

2. กติกาไม่ซับซ้อน

เมื่อเทียบกับเกมเดิมพันประเภทอื่น ๆ แล้ว กติกาการเล่นของบาคาร่าถือว่ามีความเรียบง่ายมากที่สุด เพียงแค่วางเดิมพันฝั่งไหนก็ได้ตามต้องการภายในระยะเวลาที่กำหนด เมื่อฝั่งที่แทงไว้ชนะก็จะได้รับเงินรางวัลไปทันที ถึงแม้จะมีเรื่องของไพ่ใบที่สามเข้ามาก็ไม่ต้องไปนั่งเสียเวลาจดจำ เพราะมีดีลเลอร์คอยทำหน้าที่ตรงนี้ให้อยู่แล้วนั่นเอง

3. มีรูปแบบการเล่นที่หลากหลาย

ด้วยความนิยมในบาคาร่าที่มีมานานกว่าร้อยปี ทำให้เกมนี้ได้รับการพัฒนาออกมาให้มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการวางเดิมพันที่มีให้เลือกมากกว่า เจ้ามือ, ผู้เล่น และเสมอ การเล่นแบบมังกรแดง มังกรน้ำเงิน ซุปเปอร์ซิก หรือแม้แต่บาคาร่าประกันภัยที่สามารถวางเงินเดิมพันไว้ป้องกันการแทงเสีย ล่าสุดมีการบาคาร่าบล็อคเชนที่ขึ้นชื่อว่าบริสุทธิ์ยุติธรรมที่สุด สามารถตรวจสอบได้ตลอดทั้งเกมว่าไม่มีการเอาไพ่เก่ามาวนเล่นซ้ำแน่นอน ซึ่งความหลากหลายตรงนี้ก็มาพร้อมกับอัตราจ่ายที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น สูงสุด 255 เท่า ทำให้นักเดิมพันสายทุนน้อยก็มีโอกาสรวยได้ง่าย ๆ เช่นกัน

4. โอกาสชนะเพิ่มมากขึ้นไปตามประสบการณ์

สำหรับใครที่คิดว่าบาคาร่าต้องมาพร้อมดวงแล้วล่ะก็ เราอยากให้เปลี่ยนแนวความคิดนี้เสียใหม่ เพราะบาคาร่านั้นเป็นเกมที่นักเดิมพันต้องใช้ประสบการณ์อย่างมากในการเพิ่มโอกาสชนะให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นทักษะการอ่านเค้าไพ่ ทักษะการเดินเงิน การบริหารเงินทุน ไปจนถึงการจัดการอารมณ์ของตัวเอง เนื่องจากทุกครั้งที่เราเล่น โอกาสชนะจะถูกลดลงไปเรื่อย ๆ ตามหลักการของ House Edge ดังนั้นประสบการณ์จึงเป็นสิ่งที่จะมาเติมเต็มและเพิ่มโอกาสชนะให้กับเราได้เป็นอย่างดี

5. ใช้เวลาน้อย

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาเกมที่ใช้เวลาทำกำไรได้ในระยะเวลาสั้น ๆ แล้วล่ะก็ บาคาร่าเป็นสิ่งเดียวที่จะตอบโจทย์ได้ แม้จะมีอัตราจ่ายเพียงแค่ 1 : 1 แต่เกมนี้เราสามารถใช้สูตรเดินเงินมาเพิ่มโอกาสทำกำไรได้ใน 5 ตาเท่านั้น อีกทั้งระยะเวลาในการเล่นแต่ตาก็น้อยกว่า ใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีก็สามารถทำกำไรเป็นกอบเป็นกำกันได้แล้ว

6. ทุนน้อยก็รวยได้

แม้ว่าบาคาร่าจะมีอัตราจ่ายที่ 1 : 1 ถึงจะมีโอกาสทำกำไร แต่การเล่นบาคาร่าไม่จำเป็นเลยที่จะต้องมาหาเงินทุนเยอะ ๆ มาเล่น มีทุนแค่หลักร้อยก็สามารถทำกำไรหลักพันกันได้แล้ว หากใครที่มีทักษะการใช้สูตรเดินเงินก็จะมีโอกาสทำกำไรเพิ่มเข้าไปอีกโดยที่ใช้เงินทุนแค่นิดเดียวเท่านั้น

ข้อเสียของบาคาร่า

ได้เห็นข้อดีกันไปแล้ว คราวนี้เรามาดูข้อเสียของบาคาร่ากันบ้างว่ามีอะไรที่เราต้องรู้และต้องระวังระหว่างเล่น

1. วางเดิมพันฝั่งเจ้ามือจะต้องเสียค่าคอมมิชชั่น 5%

ปกติแล้วอัตราจ่ายของเกมเดิมพันจะมีความแปรผันไปตามค่า House Edge จะเห็นได้ว่ายิ่งตำแหน่งไหนเรามีโอกาสชนะมาก อัตราจ่ายจะยิ่งน้อย จุดไหนที่มีโอกาสชนะน้อย อัตราจ่ายจะกลับเพิ่มมากขึ้น ด้วยหลักการนี้ทำให้ใครหลายคนคิดว่าการแทงบาคาร่าฝั่งเจ้ามือจะช่วยให้มีโอกาสชนะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งก็เป็นไปตามนั้นจริง ๆ แต่ว่าโอกาสชนะของเจ้ามือกับผู้เล่นนั้นต่างกันเพียงแค่ 0.19% เท่านั้น ในทางปฏิบัติแล้วแทบจะไม่มีอะไรต่างกันเลย แถมการชนะของเจ้ามือเรายังต้องแบ่งกำไรให้กับคาสิโนอีก ต่อให้ทำกำไรได้มากกว่าแต่ในระยะยาวก็ไม่น่าจะคุ้มค่าอยู่ดี

2. ความเสียเปรียบของฝั่งเจ้ามือบนซุปเปอร์ซิก

พอเห็นข้อเสียแรกกันไปแล้ว มือใหม่ส่วนใหญ่มักจะหันไปเล่นบาคาร่าซุปเปอร์ 6 แทน เพราะเวลาแทงฝั่งเจ้ามือชนะก็จะได้รับเงินรางวัลเต็ม ๆ 100% แต่รู้หรือไม่ว่ากติกาสำคัญอย่างหนึ่งบนเกมนี้ก็คือ เมื่อใดก็ตามที่ฝั่งเจ้ามือชนะด้วย 6 แต้ม อัตราจ่ายจะลดลงครึ่งหนึ่งทันที หรือก็คือแทนที่จะได้ 100% มันจะลดเหลือแค่ 50% ซึ่งโหดกว่าการเล่นบนโต๊ะปกติมากถึง 45% กันเลยทีเดียว

3. เคลิ้มได้ง่าย

ข้อนี้เป็นเรื่องของวินัยนักเดิมพันกันล้วน ๆ คนส่วนมากเวลาเล่นบาคาร่าจะรู้สึกว่าตัวเองเก่ง เดาทางง่าย ทั้งที่จังหวะมันได้แท้ ๆ ด้วยเหตุนี้เลยทำให้ยิ่งเล่นยิ่งติดลม คุมตัวเองไม่ได้ เวลาเสียก็อยากได้คืนอีกเพราะคิดว่ายังไงสูตรเดินเงินก็ช่วยได้แน่นอน แต่บอกไว้ก่อนเลยใครเป็นแบบนี้หมดตัวทุกราย

และทั้งหมดที่เราพูดมาจนถึงตอนนี้ก็คือข้อดีและข้อเสียของบาคาร่าที่มือใหม่จำเป็นต้องรู้เอาไว้ก่อนเล่นครับ อย่างไรก็ตามบาคาร่าก็ยังคงเป็นเกมที่น่าเล่น ด้วยความง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน ทำให้เราเริ่มต้นทำกำไรกันได้ทันที อย่างไรก็ตามทุกการวางเดิมพันควรจะเป็นไปอย่างมีระบบระเบียบ จะได้ไม่ต้องหมดเนื้อหมดตัวกันไปก่อน แล้วเดี๋ยวนี้บาคาร่า KUBET ของเราก็มีระบบทดลองเล่นฟรี มาให้ฝึกฝีมือเพิ่มความมั่นใจกันก่อนด้วย พร้อมตอนไหนก็สมัครแล้วฝากเงินมาทำกำไรกันได้เลย

เค้าไพ่บาคาร่า คืออะไร

เค้าไพ่ ที่จริงแล้วนี่เป็นศัพท์เฉพาะที่เหล่านักเดิมพันใช้เรียกประวัติการออกรางวัลของไพ่บาคาร่า ในสมัยก่อนตามบ่อนคาสิโนก่อนที่นักเดิมพันจะเริ่มเล่น พวกเขาจะยืนสังเกตการณ์พร้อมกับจดบันทีกในสมุดตัวเองว่าในแต่ละตาฝั่งไหนเป็นฝ่ายชนะหรือว่าเสมอ แล้วค่อยเอาข้อมูลดังกล่าวมาวิเคราะห์ว่ามีเค้าหรือแนวโน้มการออกรางวัลอย่างไร ซึ่งปัจจุบันในคาสิโนออนไลน์ได้มีการนำระบบนี้มาใช้เพื่อให้ผู้เล่นสามารถตัดสินใจวางเดิมพันได้ง่ายขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องจดเอง สำหรับเค้าไพ่ที่พบเห็นกันได้บ่อยก็จะมี

เค้าไพ่มังกร

เป็นเค้าไพ่ที่สังเกตได้ง่ายที่สุด เพียงแค่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งชนะติดต่อกันอย่างน้อย 5 ครั้งก็ถือว่าเป็นเค้าไพ่มังกรได้แล้ว เมื่อใดก็ตามที่เห็นไพ่ออกมาในลักษณะนี้เราจะวางเดิมพันฝั่งเดียวกันหรือที่เรียกกันว่า “แทงตาม” เช่น เจ้ามือชนะติดต่อกันแล้ว 5 ครั้ง ในตาต่อไปเราจะแทงฝั่งเจ้ามือ และทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าผลจะออกมาเป็นอีกฝั่งหรือว่าเสมอก็จะหยุดเล่นแล้วค่อยหาจังหวะเข้าใหม่อีกครั้ง

เค้าไพ่สองตัด

ชื่อเค้าไพ่นี้อาจไม่ค่อยคุ้นหูในหมู่มือใหม่กันมากนัก จุดเด่นของเค้าไพ่สองตัดอยู่ตรงที่จะออกฝั่งใดฝั่งหนึ่งติดกันสองครั้งแล้วสลับไปออกอีกฝั่ง เช่น ไพ่ออก เจ้ามือ, เจ้ามือ, ผู้เล่น หรืออาจจะเป็น ผู้เล่น, ผู้เล่น, เสมอ แบบนี้ก็ถือว่าเป็นไพ่สองตัดเช่นกัน หากเจอเค้าไพ่ลักษณะนี้ตาต่อไปเราจะแทงอีกฝั่งหรืออาจแทงเสมอพ่วงไปด้วยเพื่อเพิ่มโอกาสชนะ

เค้าไพ่สามตัด

เค้าไพ่รูปแบบนี้จะคล้ายกับไพ่สองตัดเพียงแต่จำนวนการออกซ้ำจะเป็นติดกันสามตา ดังนั้นวิธีการเล่นก็จะคล้ายกันคือ หลังจากที่มีการออกซ้ำสามตาติดแล้ว รอบต่อไปเราจะแทงสลับฝั่งพร้อมกับแทงเสมอเข้าไปด้วยอีกนิดหน่อยให้พอมีติดปลายนวม

เค้าไพ่เสมอต่อ

เป็นเค้าไพ่ที่มีลักษณะการออกผลคือ ออกฝั่งใดก็ได้แล้วตามด้วยเสมอ แล้วค่อยออกผลตัวนั้นต่อไปอีก 1 ตาถึงจะเปลี่ยนเป็นฝั่งตรงข้าม เช่น ผลออกมาเป็น เจ้ามือ, เจ้ามือ, เสมอ, เจ้ามือ เป็นต้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเค้าไพ่ที่ค่อนข้างเล่นยาก แต่ถ้าวิเคราะห์ได้ชำนาญก็จะสามารถทำกำไรได้เช่นกัน

เค้าไพ่ผู้เล่นนำ

แม้ว่าเค้าไพ่ลักษณะนี้จะไม่มีรูปแบบการออกไพ่ที่ตายตัวเหมือนเค้าไพ่ลักษณะอื่น ๆ แต่ไม่ว่าจะออกไพ่ในรูปแบบไหนก็ตาม จุดสังเกตก็คือฝั่งผู้เล่นจะชนะมากกว่าอีกสองฝั่งรวมกัน ทำให้การตัดสินใจวางเดิมพันค่อนข้างทำได้ง่าย นั่นก็คือแทงฝั่งผู้เล่นตามน้ำไปนั่นเอง

เค้าไพ่เจ้ามือนำ

เค้าไพ่ลักษณะนี้เราจะใช้หลักการคล้ายกับเค้าไพ่ผู้เล่นนำ คือเน้นแทงไปที่ฝั่งเจ้ามือ แม้ว่าจะมีอัตราจ่ายน้อยกว่าแต่ก็ถือว่าคุ้มค่าที่จะเสี่ยง เพราะโต๊ะที่เราเล่นนั้นส่วนมากจะออกเจ้ามือมากกว่าผู้เล่นหรือว่าเสมอนั่นเอง

เค้าไพ่ปิงปอง

เป็นอีกหนึ่งเค้าไพ่ที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดี แม้ว่ารูปแบบการออกรางวัลจะค่อนข้างดูยากเพราะสลับไปมา แต่ที่จริงแล้วเค้านี้เล่นง่ายมาก โดยเราจะแทงฝั่งตรงข้ามของตาล่าสุดเสมอ เช่น ถ้าไพ่ออก ผู้เล่น, เจ้ามือ, ผู้เล่น, เจ้ามือ, ผู้เล่น แบบนี้ ตาต่อไปเราจะแทงเจ้ามือ ถ้าถูกก็จะกลับไปแทงผู้เล่น ทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะทายผิดหรือแทงเสียนั่นเอง

เค้าไพ่ผสม

เป็นเค้าไพ่ที่เล่นอยากที่สุดก็ว่าได้เนื่องจากไม่มีรูปแบบตายตัว ส่วนมากเราจะอาศัยดูแค่ช่วงจังหวะใดจังหวะหนึ่งของเกมเท่านั้นเพื่อวิเคราะห์ในระยะสั้น อย่างไรก็ตามหากเจอโต๊ะที่มีเค้าแบบนี้แนะนำว่าเปลี่ยนโต๊ะจะดีกว่า เพราะโอกาสชนะมีน้อยมาก

เคล็ดลับการอ่านเค้าไพ่แบบมืออาชีพ

• ไม่ใจร้อนรีบวางเดิมพันในแต่ละรอบ
• ดูเค้าไพ่ให้รอบคอบ ให้ละเอียดจนกว่าจะมั่นใจ
• หากมั่นใจจนสามารถคาดเดาผลได้ตามต้องการแล้วถึงค่อยวางเดิมพันลงไป
• มีแผนการเล่นรับมือไว้ในกรณีที่ไปผิดทาง
• เมื่อได้กำไรตามเป้าแล้วหยุดเล่นทันที ไม่มั่นใจจนเกินไป เพราะในระยะยาวไม่สามารถชนะคาสิโนได้อยู่แล้ว

สำหรับเค้าไพ่รูปแบบต่าง ๆ ที่ยกมาทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่แนวทางในการวางเดิมพันเท่านั้น เพราะการเล่นบาคาร่าให้ได้กำไรนอกจากทักษะการอ่านเค้าไพ่แล้ว ยังมีเรื่องของวินัยการเล่น ปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงประสบการณ์ในการเล่นอีกด้วย ดังนั้นการฝึกฝนให้ชำนาญ และเล่นอย่างมีแบบแผนสม่ำเสมอ จะสามารถช่วยให้มือสมัครเล่นในวันนี้กลายเป็นมืออาชีพในวันหน้าได้อย่างแน่นอน

เลือกโต๊ะก่อนเล่นเสมอ

เล่นบาคาร่าทั้งทีใช่ว่าจะเล่นโต๊ะไหนก็ได้ สำหรับสายทุนน้อยแล้วสิ่งแรกที่ควรทำก็คือมองหาโต๊ะบาคาร่าที่วางเดิมพันขั้นต่ำถูกที่สุดเท่าที่จะหาได้ สมมติว่ามีเงินทุนอยู่ 1,000 บาท คงต้องเลือกเล่นกับโต๊ะบาคาร่า 5 บาท หรือสูงสุดก็ไม่ควรเกิน 10 บาท แม้ว่าเวลาชนะจะได้กำไรน้อย แต่มองกลับกันเราสามารถเล่นได้มากถึง 100 – 200 ครั้งเลยทีเดียว และสามารถแบ่งไม้ลงเล่นได้มากถึง 100-200 ไม้อีกด้วย หากไปเลือกเล่นพวกโต๊ะ 20 บาท ก็จะเล่นได้แค่ 50 ไม้หรือ 50 ตาเท่านั้น ยิ่งเล่นได้มากยิ่งมีโอกาสแก้ตัวมาก เท่ากับว่าโอกาสที่จะหมดตัวก็น้อยลงไปด้วย

กำหนดหน่วยลงทุนให้ชัดเจน

การเล่นบาคาร่าสิ่งสำคัญก็คือจะต้องรู้จักแบ่งเงินทุนไว้เป็นสัดส่วน เช่น มีทุนทั้งหมด 10,000 บาท อาจดึงมาเล่นเฉพาะวันนี้แค่ 1,000 บาท แล้วเอาเงินทุนตรงนี้มาแบ่งเป็นไม้ย่อย ๆ อีกไม้ละเท่า ๆ กัน อาจจะใช้ขั้นต่ำของโต๊ะเป็นเกณฑ์ก็ได้ เพราะหัวใจสำคัญของการเล่นบาคาร่าทุนน้อยก็คือ วางเดิมพันให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ และการแบ่งไม้ให้เล็กที่สุดจะช่วยปกป้องเงินทุนให้รอดพ้นจากการเดิมพันเกินตัวได้เป็นอย่างดี

ทำความเข้าใจกติกา

บาคาร่าไม่ใช่เกมที่ว่าแต่เลือกโต๊ะแล้วมีเงินก็เล่นกันได้เลย ด้วยความนิยมของบาคาร่าทำให้เกมนี้ได้รับการพัฒนาต่อยอดกันเยอะมากหลายรูปแบบ แต่ละแบบก็จะมีกติกาที่แตกต่างกันไปเพื่อเพิ่มความสนุกเร้าใจให้กับผู้เล่น ดังนั้นก่อนที่จะวางเดิมพันควรดูก่อนว่าโต๊ะที่เราสนใจนั้นเป็นเกมบาคาร่าแบบไหน แล้วไปศึกษากติกาให้เข้าใจเสียก่อน จะได้วางเดิมพันอย่างถูกต้อง ไม่ใช่เล่นแล้วเสียมาหาว่าโดนโกงอย่างที่มือใหม่หลายคนมักจะเป็นกันบ่อย ๆ

ไม่กระโดดเข้าเล่นทันที

ความผิดพลาดของมือใหม่มักจะเกิดที่ความใจร้อนรีบกระโดดเข้าไปเล่นตั้งแต่ช่วงต้นเกม อย่าลืมว่าบาคาร่าเป็นการเล่นโดยใช้ไพ่มากกว่า 7-8 สำรับในการเล่น นั่นหมายความว่ามีเวลาอีกนานกว่าจะจบเกมในรอบนั้น หลังจากที่เลือกโต๊ะเล่นได้แล้วควรจะดูท่าทีหรือทางไพ่ให้ดีเสียก่อนว่าออกเค้าไหน จังหวะไหน แล้วค่อยหาโอกาสเข้าตอนที่เรารู้สึกมั่นใจจริง ๆ เท่านั้นจะดีกว่า

เน้นแทงฝั่งเจ้ามือหรือฝั่งผู้เล่นเท่านั้น

แม้ว่าการวางเดิมพันในตำแหน่งอื่น ๆ จะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า เคยสงสัยบ้างหรือไม่ว่าทำไมคาสิโนถึงมั่นใจจ่ายให้มากขนาดนั้น นั่นก็เพราะว่าตามสถิติหรือค่า House Edge ที่เป็นความได้เปรียบของคาสิโนในระยะยาวมีมากนั่นเอง หรือพูดให้เข้าใจง่ายก็คือที่เขากล้าจ่ายเยอะก็เพราะว่าโอกาสออกมันมีน้อย ขณะเดียวกันตรงไหนที่จ่ายให้น้อย ๆ อันนั้นแหละที่มีโอกาสออกเยอะ

เอาสูตรเดินเงินเข้าช่วย

การจะเล่นแบบวางเดิมพันเท่าเดิมไปทุก ๆ ตา ต่อให้ชนะทุกตาสุดท้ายก็ต้องเสียคืนให้คาสิโนตามค่า House Edge อยู่ดี ดังนั้นการใช้สูตรเดินเงินเล่นจะช่วยให้ทำกำไรได้เร็วขึ้นในระยะสั้น เช่น สูตร 1324 ที่จะการันตีกำไรทันทีที่ชนะสองตาติด สูตรมาร์ติงเกลที่สามารถใช้ได้ทั้งทบเพื่อดึงเงินที่เสียไปกลับคืนมา หรือจะทบเพื่อใช้กำไรเล่นแค่อย่างเดียวก็ได้ ทั้งนี้จะต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์ด้วย

มีเป้าหมายและแผนการเล่นที่ชัดเจน

เล่นบาคาร่าจะหวังแต่กำไรอย่างเดียวมันเป็นไปไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องเผื่อใจแพ้เอาไว้บ้าง แต่ไม่ว่าจะเป็นการทำกำไรหรือขาดทุนก็ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น จะเอากำไร 10% ของทุนในวันนี้ และยอมขาดทุนได้แค่ 5% เท่านั้น สมมติว่าถ้าเราเล่นได้กำไรครบก่อน หรือขาดทุนครบก่อนก็จะต้องหยุดทันที นอกจากนี้ไม่ว่าจะเล่นได้หรือเล่นเสียก็ต้องมีแผนด้วยว่าจะเล่นด้วยกลยุทธ์ไหน หากเสียแล้วจะใช้สูตรเดินเงินตัวไหนมาช่วย ที่สำคัญคือทำตามแผนอย่างเคร่งครัด

ไม่ใช้อารมณ์เล่น

ความสำเร็จที่จะทำให้การเล่นบาคาร่าทุนน้อยได้กำไรก็คือการเล่นแบบไม่ปล่อยให้มีอารมณ์ร่วม เช่น เวลาเล่นได้เราจะไม่คิดว่าตัวเองมือขึ้น หรือถ้าเล่นเสียจะไม่พยายามเอาคืน ทุกอย่างจะเดินไปตามแผนที่วางไว้ เพราะการปล่อยให้ตัวเองใช้อารมณ์สิ่งที่จะตามมามักจะเป็นการ Over Bet หรือเดิมพันเกินตัว บางคนเวลาเล่นได้จะรู้สึกว่าถ้าเพิ่มเงินเดิมพันเยอะจะได้กำไรเยอะ แต่ลืมคิดไปว่าถ้าเสียมาก็เงินก้อนโตเช่นกัน เหมือนกับคนที่พยายามแทงทบเพื่อหวังดึงเงินคืนกลับมาจนลืมคิดไปว่าเสี่ยงที่จะเสียเงินก้อนโตด้วย บางคนทบจนเกินเดิมพันสูงสุดของโต๊ะ สุดท้ายมีแต่เสียกับเสีย

มาถึงตรงนี้คงเห็นแล้วว่าต่อให้มีทุนน้อยแค่ไหนเราก็สามารถทำกำไรจากการเล่นบาคาร่าได้ไม่ยาก ขอเพียงแค่เข้าใจเลือกโต๊ะ รู้จักกติกา มีวินัยเข้าใจการแบ่งไม้ลงเล่น มีแผนที่ชัดเจน เล่นอย่างเป็นระบบ ที่สำคัญไม่ใช้อารมณ์เล่นเด็ดขาด เพียงเท่านี้ก็ทำกำไรกันได้ทุกวันแล้ว

บาคาร่าคืออะไร

ก็ต้องย้อนกลับไปกันตั้งแต่สมัยโรมันโบราณ ยุคนั้นมีพิธีกรรมอย่างหนึ่งที่ให้หญิงวัยพรหมจรรย์ทำการทอยลูกเต๋าเสี่ยงทาย หากได้ 8-9 แต้ม จะหมายถึงมหาปุโรหิต, 6-7 แต้ม หมายถึงตัวหญิงสายพรหมจรรย์ หากได้แต้มต่ำกว่านี้หมายถึงผู้เสี่ยงทายจะต้องเดินลงทะเลจนกว่าจะจมน้ำตาย แม้ว่าจะมีการนับแต้มที่คล้ายกับบาคาร่าในปัจจุบัน แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่านี่คือจุดเริ่มต้นของบาคาร่า

จนกระทั่งราวปี ค.ศ. 1330 ในประเทศฝรั่งเศสได้มีกิจกรรมยามว่างที่นิยมเล่นกันโดยใช้แผ่นที่มีรูปวาดต่าง ๆ เป็นอุปกรณ์ในการเล่นแทนไพ่ บ้างก็เป็นไม้แกะสลัก บ้างก็เป็นไม้ประทับตราคล้ายกับไพ่นกกระจอกในจีน จนถึงช่วงปี ค.ศ. 1290 Marco Polo ได้คิดค้นแท่นพิมพ์ขึ้นมาและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ทำให้ไพ่ได้ถือกำเนิดตามมาด้วย ขณะเดียวกันก็ได้มีการสันนิษฐานว่าไพ่บาคาร่าน่าจะมีต้นกำเนิดมาจากจีนซึ่งเป็นประเทศต้นกำเนิดเกมเดิมพันมากที่สุดในโลก ก่อนจะมีการเผยแพร่เข้ามาในยุโรป

ในยุคที่คาสิโนลาสเวกัสรุ่งเรืองประมาณปี ค.ศ. 1960 บาคาร่า เป็นที่รู้จักกันในชื่อ บันโต บันโต หรือ บันโต บันโค โดยเกมนี้มีความแตกต่างจากบาคาร่าในยุคปัจจุบันตรงที่มีแค่การวางเดิมพันแพ้หรือชนะเท่านั้น ไม่ได้มีตำแหน่งเดิมพันให้เล่นกันหลากหลายเหมือนในปัจจุบัน ต่อมาได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นการแลกชิปแทนการใช้เงินสดเพื่อให้เกิดความสะดวกแก่ผู้เล่น จนกลายเป็นรากฐานสำคัญของการเล่นบาคาร่าจนถึงทุกวันนี้

ในยุคปัจจุบันบาคาร่าถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ผู้เล่นสามารถวางเดิมพันผ่านระบบออนไลน์ได้ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก ด้วยเครื่องมือที่หลากหลายช่วยอำนวยความสะดวกสบายแก่ผู้เล่น ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกรรมไปจนถึงการวิเคราะห์ไพ่ที่ไม่ต้องจดเองเหมือนแต่ก่อน และสามารถเล่นที่ไหนก็ได้ทุกที่ทุกเวลา ทำให้บาคาร่าเป็นเกมเดิมพันที่ไม่เคยมีการปิดโต๊ะมาจนถึงทุกวันนี้

เสน่ห์ของบาคาร่าออนไลน์

เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าบาคาร่าออนไลน์นั้นเป็นการวางเดิมพันผ่านระบบอินเทอร์เน็ตที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ร่วมสนุกกันทุกที่ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง ยิ่งในยุคที่อินเทอร์เน็ตอยู่แค่ปลายนิ้วเช่นนี้ ผู้เล่นไม่จำเป็นเลยที่จะต้องอยู่หน้าคอมพิวเตอร์นาน ๆ จะเล่นระหว่างเดินทางก็ได้ หรือบนที่นอนก็ดี แถมยังประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกเยอะ ไม่ว่าจะเป็นค่าเสื้อผ้าหน้าผม อาหารการกิน ค่าเดินทาง ที่สามารถเปลี่ยนมาเป็นทุนเอาไว้ใช้วางเดิมพันได้อีกด้วย

แต่ความโดดเด่นที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก็คงเป็นเรื่องของเดิมพันขั้นต่ำที่บาคาร่าออนไลน์ทำมาได้ถูกกว่าบ่อนคาสิโนจริง ๆ บางที่เริ่มต้นวางเดิมพันแค่ห้าบาทสิบบาทเท่านั้น แถมยังมีโปรโมชั่นต่าง ๆ อีกมากมายให้ได้ร่วมสนุกกัน แถมยังได้เงินทุนเพิ่มอีกด้วย เลยทำให้ผู้เล่นส่วนใหญ่ให้ความสนใจที่จะเล่นบาคาร่าออนไลน์กันมากขึ้น เพราะว่าได้กันเกินคุ้มอยู่แล้วเมื่อเทียบกับการเดินทางไปเล่นที่บ่อนคาสิโน

บาคาร่าออนไลน์เล่นยากหรือไม่

การเล่นบาคาร่าออนไลน์แท้จริงแล้วก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพราะพื้นฐานก็มาจากบาคาร่าที่มาจากบ่อนคาสิโนจริง ๆ รูปแบบกติกายังคงเดิม ยังมีการจั่วไพ่ใบที่สาม ผู้เล่นสามารถวางเดิมพันได้มากกว่าสองฝั่ง มีการแบ่งโต๊ะเดิมพันตามระดับของผู้เล่น แต่ที่ผู้เล่นต้องศึกษาเพิ่มเติมก็คืออัตราจ่ายและกติกาของแต่ละโต๊ะซึ่งจะมีความแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย อย่างโต๊ะที่ไม่มีการหักค่าคอมมิชชั่นฝั่งเจ้ามือ ก็จะมีกติกาการชนะที่ต่างจากโต๊ะที่มีการหักค่าคอมมิชชั่น เป็นต้น

เล่นบาคาร่าออนไลน์อย่างไรให้ได้เงินจริง

เมื่อพูดถึงบาคาร่าออนไลน์กันแล้ว ก็อาจเป็นกังวลกันว่าหากโดนโกงขึ้นมาจะทำอย่างไร เพราะไม่ได้เดินทางไปเล่นที่คาสิโนจริง ๆ จะตามเงินได้ที่ไหน อีกอย่างการเล่นคาสิโนในบ้านเราก็ยังไม่มีกฎหมายรองรับ ใครที่กังวลเรื่องนี้เราสามารถป้องกันได้ง่าย ๆ ให้มีโอกาสได้เงินจริง เพียงแค่

• เลือกเล่นกับเว็บพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย และมีใบอนุญาตอย่างถูกต้องเท่านั้น
• รับโปรโมชั่นเฉพาะที่มีเทิร์นโอเวอร์ไม่สูงเกินไป มีโอกาสถอนเงินได้จริง
• มีโปรโมชั่นเฉพาะเกมบาคาร่าให้เลือกรับ
• รองรับการฝาก-ถอนผ่านระบบธนาคารภายในประเทศ
• มีระบบอัตโนมัติในการทำธุรกรรมทุกขั้นตอน
• ฝ่ายบริการลูกค้าติดต่อง่ายตลอด 24 ชั่วโมง ทุกช่องทาง
• เล่นอย่างมีแบบแผน มีเป้าหมาย มีสติ ไม่ใช้อารมณ์ในการเล่น
• ไม่ต้องรีบร้อน ค่อย ๆ เล่นไป เพราะบาคาร่าออนไลน์ไม่มีใครมาเร่งเราอยู่แล้ว

แทงฝั่งผู้เล่น

การแทงตำแหน่งนี้จะเป็นการทายว่าผลที่ออกมาฝั่งผู้เล่นจะมีแต้มเหนือกว่าฝั่งเจ้ามือ ซึ่งอัตราจ่ายจะอยู่ที่ 1 : 1 หมายความว่าหากเราแทง 100 บาท หากฝั่งผู้เล่นชนะก็จะได้รับเงินรางวัล 100 บาท รวมเป็นเงิน 200 บาท ที่จะได้รับกลับมานั่นเอง

แทงฝั่งเจ้ามือ

สำหรับการแทงตำแหน่งนี้จะเป็นการทายว่าฝั่งเจ้ามือจะเป็นฝ่ายชนะฝั่งผู้เล่นด้วยแต้มที่มากกว่า ส่วนอัตราจ่ายปกติแล้วจะอยู่ที่ 1 : 0.95 หมายความว่าถ้าเราแทงเจ้ามือ 100 บาท แล้วฝั่งเจ้ามือเป็นฝ่ายชนะก็จะได้รับกำไร 95 บาท ส่วนอีก 5 บาท ถูกหักให้กับคาสิโนเป็นค่าคอมมิชชั่น ยกเว้นในกรณีที่เล่นโต๊ะแบบไม่มีค่าคอมมิชชั่นจะได้รับอัตราจ่าย 1 : 1 เช่นเดียวกับการแทงฝั่งผู้เล่น แต่โต๊ะที่ไม่มีคอมมิชชั่นก็จะมีกติกาพิเศษเพิ่มเข้ามาเช่นกัน

แทงฝั่งเสมอ

เป็นการทายว่าทั้งฝั่งเจ้ามือและฝั่งผู้เล่นต่างก็จะได้แต้มรวมออกมาเท่ากัน ไม่ว่าจะมีการจั่วไพ่เพิ่มหรือไม่ก็ตาม ซึ่งอัตราจ่ายจะสูงถึง 1 : 8 หมายความว่าถ้าแทงฝั่งเสมอ 100 บาท แล้วผลออกมาเป็นเสมอจริง เราจะได้กำไรมากถึง 800 บาท เลยทีเดียว

แทงไพ่คู่ฝั่งใดก็ได้

การแทงรูปแบบนี้คือการทายว่าไพ่สองใบแรกของฝั่งใดฝั่งหนึ่งจะออกมาแต้มเดียวกัน (ไม่จำเป็นต้องดอกเดียวกัน) อัตราจ่ายจะอยู่ที่ 1 : 5 สมมติว่าเราแทงไพ่คู่ 100 บาท แล้วผลออกมาคือไพ่สองใบแรกของฝั่งเจ้ามือหรือฝั่งผู้เล่นออกไพ่คู่ ก็จะได้รับรางวัลกลับมา 500 บาท นั่นเอง

แทงไพ่คู่ฝั่งเจ้ามือ

การแทงตำแหน่งนี้เป็นการทายว่าไพ่สองใบแรกของฝั่งเจ้ามือจะออกมาแต้มเหมือนกัน อัตราจ่ายคือ 1 : 11 เหมือนกับการแทงไพ่คู่ปกติ หากเราแทงไพ่คู่ฝั่งเจ้ามือ 100 บาท และผลออกมาคือเจ้ามือได้ไพ่คู่ ก็จะถือว่าชนะเดิมพัน ได้รับเงินรางวัล 1,100 บาท กันเลยทีเดียว แม้ว่าผลออกมาเจ้ามือจะแพ้ฝั่งผู้เล่นก็ตาม

แทงไพ่คู่ฝั่งผู้เล่น

การแทงตำแหน่งนี้จะเหมือนกับการแทงไพ่คู่ฝั่งเจ้ามือทุกอย่าง และได้รับอัตราจ่ายเท่ากัน เพียงแค่เปลี่ยนฝั่งจากเจ้ามือเป็นผู้เล่นเท่านั้น

แทงไพ่คู่ทั้งสองฝั่ง

จัดว่าเป็นตำแหน่งการแทงบาคาร่าที่เร้าใจมากที่สุด เพราะเป็นการทายว่าทั้งฝั่งผู้เล่นและฝั่งเจ้ามือต่างก็จะได้รับไพ่คู่เหมือนกัน โดยไม่จำเป็นต้องมีแต้มเท่ากันก็ได้ เช่น ฝั่งเจ้ามือได้คู่ 3 ฝั่งผู้เล่นได้คู่ 7 เป็นต้น อัตราจ่ายตำแหน่งนี้ให้สูงถึง 1 : 25 แทงแค่ 100 บาท หากถูกขึ้นมาก็จะได้รับกำไรมากถึง 2,500 บาท กันเลยทีเดียว

แทงต่ำ

การแทงตำแหน่งนี้ถือว่ามีความเสี่ยงค่อนข้างน้อย แต่อัตราจ่ายก็ต่ำไปด้วย เหลือเพียงแค่ 1 : 1.5 เท่านั้น โดยเงื่อนไขการชนะเดิมพันคือ ในตานั้นเกมจะต้องจบด้วยไพ่เพียงแค่ 4 ใบเท่านั้น ไม่มีการจั่วเพิ่ม

แทงสูง

เป็นการทายว่าเกมนั้นจะจบด้วยการจั่วไพ่ใบที่สาม สำหรับตำแหน่งนี้จะมีอัตราจ่ายน้อยที่สุดเพียงแค่ 1 : 0.54 เท่านั้น หมายความว่าถ้าแทงบาคาร่าไป 100 บาท จะได้กำไรกลับมา 54 บาท นั่นเอง

แทงตัวเลข 0-9

กรณีนี้จะเป็นการแทงแบบพิเศษว่าผลจะออกมาเป็นเสมอด้วยแต้มที่เราทายไว้ เช่น แทง 5 จะชนะเดิมพันก็ต่อเมื่อฝั่งเจ้ามือและฝั่งผู้เล่นต่างได้แต้มรวม 5 แต้มเท่ากัน ส่วนอัตราจ่ายจะแตกต่างกันไปตามแต้มที่ออกมาดังนี้

• เสมอกันที่ 0 แต้ม อัตราจ่าย 1 : 150 แทง 100 บาท ได้กำไร 1,500 บาท
• เสมอกันที่ 1 แต้ม อัตราจ่าย 1 : 215 แทง 100 บาท ได้กำไร 2,150 บาท
• เสมอกันที่ 2 แต้ม อัตราจ่าย 1 : 220 แทง 100 บาท ได้กำไร 2,200 บาท
• เสมอกันที่ 3 แต้ม อัตราจ่าย 1 : 200 แทง 100 บาท ได้กำไร 2,000 บาท
• เสมอกันที่ 4 แต้ม อัตราจ่าย 1 : 120 แทง 100 บาท ได้กำไร 1,200 บาท
• เสมอกันที่ 5 แต้ม อัตราจ่าย 1 : 110 แทง 100 บาท ได้กำไร 1,100 บาท
• เสมอกันที่ 6 แต้ม อัตราจ่าย 1 : 45 แทง 100 บาท ได้กำไร 450 บาท
• เสมอกันที่ 7 แต้ม อัตราจ่าย 1 : 45 แทง 100 บาท ได้กำไร 450 บาท
• เสมอกันที่ 8 แต้ม อัตราจ่าย 1 : 80 แทง 100 บาท ได้กำไร 800 บาท
• เสมอกันที่ 9 แต้ม อัตราจ่าย 1 : 80 แทง 100 บาท ได้กำไร 800 บาท

ทริคการแทงบาคาร่า

เห็นตำแหน่งการเล่นและอัตราจ่ายแบบนี้ บางคนอาจตัดสินใจไม่ได้ว่าจะแทงตัวไหนดี หรือบางทีก็อยากจะแทงที่มีอัตราจ่ายสูง ๆ กะรวยเร็วในตาเดียว ใครที่คิดแบบนี้อย่าลืมว่าที่คาสิโนยินดีจ่ายมากขนาดนั้นก็เพราะเขามั่นใจแล้วว่าโอกาสชนะมีน้อยมาก ๆ ต่างจากพวกที่ออกบ่อย ๆ อัตราจ่ายจะน้อยสุด ๆ แล้วแบบนี้จะแทงบาคาร่าอย่างไรดี

ที่จริงแล้วแต่ละโต๊ะไม่ได้จำกัดว่าจะต้องวางเดิมพันแค่ตำแหน่งเดียวเท่านั้น หมายความว่าเราสามารถวางเดิมพันพร้อมกันได้หลายตำแหน่ง โดยจุดที่ให้ผลตอบแทนน้อยก็อาจจะเพิ่มเงินเดิมพันมากหน่อย ส่วนจุดไหนที่เสี่ยงสูง อัตราจ่ายดี ก็อาจวางเดิมพันขั้นต่ำ เพื่อกระจายความเสี่ยงไปในตัว เมื่อเป็นแบบนี้เราก็สามารถทำกำไรในระยะยาวกันได้ง่าย ๆ แล้ว