Roulette เป็นหนึ่งในเกมคาสิโนยอดนิยมที่มีให้เล่นบนเว็บไซต์ KUBET ซึ่งมีตัวเลือกการเดิมพันที่หลากหลาย ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือผู้เล่นที่มีประสบการณ์ การทำความเข้าใจประเภทของการเดิมพันต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการชนะ อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นจำนวนมากยังสับสนกับตัวเลือกการเดิมพันทั้งหมดที่มีอยู่ในเกม Roulette
คำถามหนึ่งที่มักพบบ่อยคือ “ฉันสามารถเดิมพันอะไรได้บ้างในเกม Roulette?” ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากที่ต้องรู้คำตอบ หากคุณต้องการเล่น Roulette และชนะ แม้แต่ผู้เล่นที่มีประสบการณ์ยาวนานหลายคน ก็ยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าการเดิมพันใน Roulette ทำงานอย่างไร ในขณะที่บางคนอาจต้องการเคล็ดลับเกี่ยวกับการเดิมพันประเภทที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยม
ในบทความนี้ เราจะอธิบายรายการการเดิมพัน Roulette อย่างครบถ้วน เป็นภาพรวมที่จะช่วยให้คุณเข้าใจทุกอย่างตั้งแต่การเดิมพันภายในและภายนอกพื้นฐาน ไปจนถึงตัวเลือกขั้นสูงอย่าง Neighbor Bets, Call Bets, Final Bets และอื่นๆ อีกมากมาย
ในเกม Roulette นั้น มีประเภทของการเดิมพันที่หลากหลาย ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่ Inside Bets และ Outside Bets โดยในส่วนนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับ Outside Bets กันอย่างละเอียด ซึ่งเป็นการเดิมพันที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า Inside Bets และเหมาะสำหรับผู้เล่นมือใหม่ที่ต้องการทำความเข้าใจกับกฎและวิธีการเล่นเกม Roulette
การเดิมพัน Red/Black, Odd/Even และ High/Low เป็นการเดิมพันที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเกม Roulette เนื่องจากมีโอกาสในการชนะสูงถึง 50% และจ่ายผลตอบแทนเท่ากับจำนวนเงินที่เดิมพัน (1:1)
Red/Black เป็นการเดิมพันว่าลูกบอลจะตกลงในช่องสีแดงหรือสีดำ ซึ่งมีอยู่ 18 หมายเลขในแต่ละสี (ยกเว้นเลข 0 ที่เป็นสีเขียว)
Odd/Even คือการทายว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นเลขคี่หรือเลขคู่ โดยเลข 0 จะไม่นับรวมในการเดิมพันประเภทนี้
High/Low เป็นการเดิมพันว่าลูกบอลจะตกในช่วงเลข 1-18 (Low) หรือ 19-36 (High) ซึ่งเลข 0 ก็จะไม่นับรวมเช่นกัน
ด้วยโอกาสในการชนะที่สูง การเดิมพันประเภทนี้จึงเป็นที่นิยมสำหรับการใช้กลยุทธ์ต่างๆ เช่น Martingale System ซึ่งเป็นการเพิ่มเงินเดิมพันเป็นสองเท่าหลังจากการสูญเสีย เพื่อให้ได้กำไรเท่ากับยอดเริ่มต้นเมื่อชนะ
Column Bets เป็นการเดิมพันว่าลูกบอลจะตกในคอลัมน์ใดคอลัมน์หนึ่ง จากทั้งหมด 3 คอลัมน์บนตาราง ซึ่งแต่ละคอลัมน์จะมีตัวเลข 12 หมายเลข หากเดิมพันถูก ผู้เล่นจะได้รับเงินในอัตรา 2:1 เท่าของเงินเดิมพัน
ในรูเล็ตแบบมาตรฐาน คอลัมน์มักจะเรียงในแนวตั้ง แต่สำหรับเกมรูเล็ตแบบไลฟ์คาสิโนส่วนใหญ่ คอลัมน์จะปรากฏในแนวนอน โดยมีตัวเลขดังนี้
Dozens Bets คล้ายกับ Column Bets ตรงที่เป็นการเดิมพันกลุ่มของตัวเลข 12 หมายเลขด้วยกัน แต่จะเป็นการแบ่งกลุ่มตัวเลขตามช่วง 1-12 (1st Dozen), 13-24 (2nd Dozen) และ 25-36 (3rd Dozen) ซึ่งอัตราการจ่ายก็จะเป็น 2:1 เท่าของเงินเดิมพันเช่นกัน
การเดิมพัน Dozens นั้นเป็นอีกทางเลือกที่ได้รับความนิยมจากผู้เล่น เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า Red/Black, Odd/Even และ High/Low แม้ว่าจะมีโอกาสในการชนะเพียง 32.4% ในรูเล็ตยุโรป และ 31.6% ในรูเล็ตอเมริกัน
ความน่าจะเป็นในการชนะ Outside Bets จะแตกต่างกันไประหว่าง รูเล็ตยุโรป กับ รูเล็ตอเมริกัน เนื่องจากวงล้อรูเล็ตอเมริกันจะมีเลข 00 (Double Zero) เพิ่มเข้ามา ซึ่งจะเพิ่มความได้เปรียบให้กับเจ้ามือ
สำหรับ รูเล็ตยุโรป ซึ่งมีตัวเลข 0-36 รวมทั้งหมด 37 หมายเลข จะมีความน่าจะเป็นในการชนะ ดังนี้
ในขณะที่ รูเล็ตอเมริกัน ซึ่งมีตัวเลขเพิ่มเป็น 0, 00, 1-36 รวมทั้งหมด 38 หมายเลข มีความน่าจะเป็นในการชนะ ดังนี้
จะเห็นได้ว่าการเพิ่มเลข 00 ในวงล้ออเมริกันทำให้ผู้เล่นมีโอกาสชนะลดลงประมาณ 1-2% ในทุกประเภทของ Outside Bets
สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มเล่น Roulette นั้น การเดิมพันประเภท Outside Bets เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากมีความเสี่ยงต่ำและให้โอกาสในการชนะที่สูงกว่า 50% ในกรณีของ Red/Black, Odd/Even และ High/Low ส่วน Column Bets กับ Dozens Bets นั้นมีโอกาสในการชนะประมาณ 30% แต่จะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าถึง 2 เท่า
อย่างไรก็ตาม หากต้องการชนะในระยะยาว ผู้เล่นควรวางแผนการเดิมพันอย่างรอบคอบ และพิจารณาใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การจัดการทุน (Bankroll Management) หรือการปรับเปลี่ยนขนาดเงินเดิมพันตามผลแพ้ชนะ เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
นอกจากนี้ ผู้เล่นควรศึกษาความแตกต่างระหว่างรูเล็ตยุโรปและอเมริกัน เนื่องจากอัตราความได้เปรียบของคาสิโนและความน่าจะเป็นในการชนะของผู้เล่นจะแตกต่างกัน โดยแนะนำให้เลือกเล่นรูเล็ตยุโรปมากกว่า เพราะมีเปอร์เซ็นต์ในการชนะที่สูงกว่า
นอกเหนือจากการเดิมพันภายนอก (Outside Bets) แล้ว รูเล็ต ยังมีตัวเลือกการเดิมพันภายใน (Inside Bets) ที่หลากหลายและให้ผลตอบแทนสูงกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงมากกว่าเช่นกัน และสำหรับผู้เล่นที่ชื่นชอบการเดิมพันแบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ยังมีตัวเลือกพิเศษอย่าง Call Bets ที่น่าสนใจ ซึ่งเราจะมาทำความรู้จักกับทั้งสองประเภทนี้กันอย่างละเอียด
Inside Bets คือการเดิมพันบนตัวเลขใดเลขหนึ่ง หรือกลุ่มของตัวเลขบนตารางวงล้อรูเล็ต ซึ่งมีรูปแบบต่างๆ ดังนี้
ความน่าจะเป็นในการชนะ Inside Bets จะแตกต่างกันไประหว่างรูเล็ตยุโรปและอเมริกัน เนื่องจากวงล้ออเมริกันมีเลข 00 เพิ่มเข้ามา ในรูเล็ตยุโรป โอกาสชนะ Straight Up อยู่ที่ 2.70%, Split 5.40%, Corner 10.80%, Street 8.10%, Six Line 16.20%, Basket 10.80% และ Snake 32.40% ส่วนในรูเล็ตอเมริกัน โอกาสชนะ Straight Up คือ 2.60%, Split 5.30%, Corner 10.50%, Street 7.90%, Six Line 15.80%, Basket 13.20% และ Snake 31.60%
สำหรับผู้ที่ต้องการความท้าทายมากขึ้น Call Bets เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ซึ่งพบได้ในรูเล็ตยุโรปและฝรั่งเศส โดยจะแสดงบนส่วน Racetrack ของโต๊ะ ซึ่งจัดเรียงหมายเลขตามลำดับของวงล้อจริง การเดิมพัน Call Bets จะแบ่งกลุ่มตัวเลขตามตำแหน่งบนวงล้อ และมีหลายรูปแบบย่อยให้เลือก
ในกลุ่ม Call Bets นั้น ยังมีการเดิมพันแบบ Finals หรือ Finales ที่น่าสนใจอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีการเดิมพัน Full Complete ซึ่งจะครอบคลุมทุก Inside Bets ที่เกี่ยวข้องกับเลขหลักที่ระบุ โดยจะเดิมพัน 1 ชิปบน Straight Up, 2 ชิปบน Splits, 2 ชิปบน Corner, 2 ชิปบน Street และ 2 ชิปบน Six Line
วิธีการวางชิปสำหรับการเดิมพัน Inside นั้นค่อนข้างตรงไปตรงมา โดยวางชิปบนตำแหน่งตัวเลขเป้าหมายบนตาราง เช่น วางตรงกลางช่องสำหรับ Straight Up, วางบนเส้นกั้นระหว่างตัวเลขสำหรับ Split, วางบนมุมที่มีเลข 4 ตัวมาบรรจบกันสำหรับ Corner, วางที่ขอบด้านใดด้านหนึ่งของแถวตัวเลขสำหรับ Street และวางที่จุดตัดระหว่างสองแถวสำหรับ Line
ในส่วนของ Call Bets นั้น สำหรับคาสิโนจริง ผู้เล่นจะต้องบอกเจ้ามือก่อนว่าต้องการเดิมพันแบบใด แต่หากเป็นการเล่นออนไลน์ ส่วนใหญ่จะมีพื้นที่สำหรับ Call Bets อยู่บนโต๊ะให้คลิกเลือกได้ทันที ซึ่งจะสะดวกกว่า
การเดิมพัน Inside Bets และ Call Bets เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการความตื่นเต้นและผลตอบแทนที่สูงขึ้น แม้ว่าจะมีความเสี่ยงมากกว่าการเดิมพัน Outside ก็ตาม อย่างไรก็ดี ผู้เล่นควรศึกษารูปแบบต่างๆ ให้เข้าใจถ่องแท้ และวางแผนการเดิมพันอย่างรอบคอบ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมือใหม่ ไม่แนะนำให้เริ่มต้นด้วยการเดิมพัน Inside หรือ Call Bets เพราะมีโอกาสเสี่ยงที่จะสูญเงินเดิมพันทั้งหมดได้ง่ายกว่า ควรเริ่มต้นจากการเดิมพัน Outside ก่อน แล้วค่อยปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การเดิมพันตามประสบการณ์และงบประมาณที่เหมาะสม
นอกจากนั้น ควรหลีกเลี่ยงการเดิมพันแบบ Basket หรือ Top Line ในรูเล็ตอเมริกัน เพราะเป็นตัวเลือกที่แย่ที่สุด ด้วยอัตราต่อรองเพียง 6:1 และอัตราเปรียบเสียเปรียบ (House Edge) สูงถึง 7.9% เมื่อเทียบกับเกมมาตรฐานที่ 5.3% ดังนั้น หากเป็นไปได้ควรเลือกเล่นรูเล็ตยุโรปที่มีความได้เปรียบมากกว่า (House Edge 2.7%)